9 ก.พ. ชาวเมียนมายังคงรวมพลแสดงพลังบนท้องถนน เคลื่อนไหวขับไล่เผด็จการทหารต่อเนื่องเป็นวัน 4 แม้ว่าคืนก่อนหน้านั้น พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่ายน์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และหัวหน้าคณะรัฐประหารจะประกาศกฎอัยการศึก บังคับมาตรการเคอร์ฟิวในพื้นที่เมืองใหญ่ของประเทศ และห้ามชุมนุมเกิน 5 คน
หม่อง ซองคา ผู้นำกลุ่มเยาวชนของเมียนมาออกแถลงการณ์ว่า ชาวเมียนมายังคงต่อสู้ต่อไป ทั้งเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งอองซาน ซูจี รวมถึงสมาชิกพรรคเอ็นแอลดีคนอื่นๆ
สอดคล้องจุดยืนของกลุ่ม 88 เจเนอเรชั่น นักเคลื่อนไหวจากเหตุการชุมนุมทางการเมืองพ.ศ. 2531 (8888 Uprising) ที่เหตุการณ์ดังกล่าวจบลงด้วยการนองเลือดจากการปราบปรามอย่างรุนแรงของทหาร ต่างออกมาแสดงจุดยืนเรียกร้องให้จ้าหน้าที่รัฐแสดงอารยะขัดขืน หยุดงานไม่ยอมรับการรัฐประหาร ทั้งยังเรียกร้องให้ชาวเมียนมาในหลายภาคส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร รวมพลังเป็นหนึ่งเดียว และค่อยช่วยเหลือกันอย่างเป็นระบบ
สำหรับการเคลื่อนไหววันที่ 4 แม้จะมีประกาศห้ามชุมนุมของกองทัพ แต่ชาวเมียนมาในหลายเมืองใหญ่ยังคงออกมาแสดงพลังต่อเนื่อง ขณะที่มีรายงานเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงเนปิดอวื ได้ใช้รถปืนใหญ่ฉีดน้ำฉีดเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่รวมตัวประท้วงในวันนี้ แต่ไม่อาจทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมล่าถอย
รายงานเว็บไซต์ myanmar-now ระบุว่า การฉีดน้ำสกัดผู้ชุมนุมในกรุงเนปิดอว์ ซึ่งรวมพลแสดงพลังอย่างต่อเนื่อง มีผู้ชุมนุมบางส่วนได้รับบาดเจ็บจากการที่ตำรวจใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อสลายการชุมนุม นับวันที่สองที่ตำรวจเมียนมายกระดับใช้ปืนใหญ่ฉีดน้ำเพื่อสลายการชุมนุม
เช่นเดียวกับการเคลื่อนไหวที่เมืองพะโค มีรายงานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมากเผชิญหน้ากับตำรวจตั้งแถวเรียงหน้ากระดาน พร้อมรถปืนใหญ่ฉีดน้ำ