ไม่พบผลการค้นหา
‘นภาพร’ชี้เป็นเรื่องตลกเศร้า ‘ประยุทธ์’เป็นนายกฯขึ้นปีที่ 9 แต่ประกาศกวาดล้างยาเสพติดเหมือนเพิ่งอยู่ปีแรก เย้ย “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” สร้างดาวคนละดวง แต่เป็นดวงที่ประชาชนไม่ต้องการแล้วทั้งคู่

วันที่ 10 ต.ค. 2565 นภาพร เพ็ชร์จินดา รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เห็นว่ารัฐบาลปรับ ครม.ไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ถ้าไม่เปลี่ยนผู้นำปัญหาต่าง ๆ ก็ยังวนเวียนอยู่ที่เดิมเหมือน 8 ปีที่ผ่านมา ตอนนี้แม้แต่ในพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังไม่มีใครกล้าพูดว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ให้เป็นนายกฯต่ออีกสองปี โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่แสดงท่าทีชัดเจนว่าจะขอรับช่วงเป็นแคนดิเดตนายกฯต่อ แต่ดูเหมือนว่า พล.อ.ประยุทธ์ คงจะไม่ยอมเหลืออีกครึ่งเทอมก็จะเอาจึงทำให้ลูกพรรคสับสน ตอนนี้ลุงตู่กับลุงป้อมจึงดูเหมือนจะสร้างดาวกันคนละดวงแต่เป็นดวงที่ประชาชนไม่ต้องการแล้วทั้งคู่

นภาพร กล่าวต่อว่าตอนนี้ชาวบ้านหลายจังหวัดเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจากภัยน้ำท่วมและต้องการความช่วยเหลือเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วน รวมทั้งการชดเชยเยียวยาจากรัฐบาลแต่กลับต้องผิดหวังเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถสร้างความมั่นใจได้เลยว่าปัญหาของพวกเขาจะได้รับการแก้ไขอย่างไรและเมื่อไร ยังคงใช้สไตล์เดิม 8 ปีไม่เคยเปลี่ยน นั่นคือลงพื้นที่ไปตรวจราชการแต่แฝงการหาเสียงมากกว่าไปแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ตอนนี้บางจังหวัดน้ำท่วมหนักมาเกือบสองเดือนแล้ว แต่ชาวบ้านก็ไม่เคยเห็นหน้าผู้นำหรือไม่เคยได้ยินแผนการระบายน้ำอย่างเป็นระบบ นอกจากข่าวการแย่งซีนกันเองของบิ๊กตู่กับบิ๊กป้อม

“พล.อ.ประยุทธ์จึงกลายเป็นผู้นำที่น่าเวทนา ก่อนหน้านี้ก็อ้างนายกฯขาดตอนเพื่ออยู่ต่อ ตอนนี้แม้แต่เป็นนายกฯแค่ 2 ปีหรือครึ่งเทอมก็จะเอา ทั้ง ๆ ที่ ตลอด 8 ปี ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์มีโอกาสมากกว่าอดีตนายกฯคนอื่นๆ ในการใช้อำนาจพิเศษจัดการปัญหาหลายอย่างที่หมักหมมมานาน เช่น การกวาดล้างยาเสพติด หวยเถื่อนหรืออาวุธเถื่อน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ก็ปล่อยให้ผ่านไปอย่างน่าเสียดาย พอเกิดเหตุการณ์รุนแรงที่หนองบังลำภู ก็ทำเป็นขึงขังเอาจริงเอาจังจะกวาดล้างยาเสพติดขนานใหญ่เหมือนเพิ่งเข้ามาเป็นนายกฯปีแรก แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำได้จริง เพราะปัญหาอยู่ที่ตัวผู้นำไร้วิสัยทัศน์เดินตามก้นระบบราชการ ไร้นโยบายที่ถูกต้องจึงแก้อะไรไม่ได้ นอกจากยาเสพติดจะเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ” นภาพรกล่าว

นภาพร กล่าวต่อว่า แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะให้ไปต่อแต่ในทางการเมืองถือว่า พล.อ.ประยุทธ์หมดเวลาแล้ว เพราะไม่หลงเหลือความเชื่อถือศรัทธาใดใดจากประชาชนอีก อย่างเช่นการแก้ปัญหาความยากจน วิธีการของรัฐบาลชุดนี้ก็คือทำให้ตัวเลขคนจนเพิ่มขึ้นถึง 20 ล้านคนแล้วบอกว่าเป็นความสำเร็จหรือการจับกุมคดียาเสพติดให้ได้จำนวนมากแล้วบอกว่าเป็นความสำเร็จของการปราบปราม ทั้งที่มันควรจะหมดไปตั้งแต่ปีแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็น คสช.แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ยิ่งอยู่นานชาวบ้านยิ่งยากจน ยาเสพติด หวยใต้ดิน อาชญากรรมจี้ปล้นเกลื่อนเมือง จึงไม่รู้ว่าจะขออยู่ต่อไปทำไมอีก 2 ปี แค่ 8 ปี นอกจากชาวบ้านจะเกินทนแล้วตอนนี้แม้แต่ลูกพรรคตัวเองก็คงจะเกินทนเช่นเดียวกันเพราะมีแต่ข่าวการย้ายพรรคหนี