ไม่พบผลการค้นหา
'ภูมิธรรม' ยืนยันทุกปัญหาภายในพรรคเพื่อไทยจะยุติ 28 ต.ค.นี้ ปฏิเสธข่าวลือ อดีต ส.ส. อีสานค้าน 'หญิงหน่อย' มอง คสช.ออกกฎหมายผิดปกติ ปิดกั้นหาเสียง แนะควรปลดล็อกให้ทุกพรรคทำกิจกรรมกับประชาชน

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความพร้อมในการประชุมกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ว่าจะเป็นการประชุมเพื่อรับรองการประะชุมครั้งที่แล้วและเลือกหัวหน้าพรรค เมื่อได้หัวหน้าพรรคก็จะเสนอรายชื่อกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ทั้งชุดให้ที่ประชุมรับรอง 

อย่างไรก็ตาม อาจจะมีการเสนอผู้สมัครท่านอื่นมาแข่งขันด้วยก็ได้ ซึ่งจะมีการลงมติในวันดังกล่าว โดยทั้งหมดเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย จากนั้นจะเลือกกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง 11 คน ตามกฎหมาย ซึ่งใน 11 คนนี้จะมีกรรมการบริหาร 4 คน โดยตำแหน่ง และสมาชิกพรรคคนอื่นๆ อีก 7 คน และยืนยันว่า หากผ่านกระบวนการใดๆ ในวันที่ 28 ตุลาคมไปแล้วก็ต้องมีเรื่องที่ได้ข้อยุติ และเมื่อบริหารพรรคไปแล้วหากมีปัญหา เมื่อครบรอบก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามปกติ 

นายภูมิธรรมปฏิเสธกรณี มีข่าวว่ากลุ่ม ส.ส. จากภาคอีสานเดินทางมาพบเพื่อคัดค้านการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า ตนยังสับสนข้อมูลที่ได้รับมา และย้ำว่าไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แต่ยอมรับว่ามีการพูดคุยกับ อดีต ส.ส.ต่างๆ เมื่อวานนี้ โดยเป็นการเล่าถึงสถานการณ์ต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย ส่วนข่าวลือที่บอกว่าภายในพรรคมีความเห็นต่างเกิดขึ้นนั้น ตนมองว่าความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้แตกต่างจากที่เป็นอยู่ กรรมการบริหารพรรคชุดเดิม ชุดรักษาการณ์ รวมถึงกรรมการบริหารชั้นผู้ใหญ่ยังคงมีเอกภาพ ขณะนี้กำลังตรวจสอบที่มาของข่าวลือที่ทำให้เกิดความสับสนและเป็นปัญหา 

ส่วนเสียงเห็นต่างที่หลากหลายจะทำให้ผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคทำงานได้ยากขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ยากแน่นอน รับประกันได้ว่า ทุกอย่างจะเป็นข้อยุติหากผ่านกระบวนการพรรคที่ได้คุยกัน ผลการตัดสินเป็นอย่างไร พรรคก็จะเดินไปตามความเป็นจริงที่เป็นฉันทานุมัติร่วมกัน ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างจะเดินหน้าได้อย่างดี 

นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงกระแสข่าวมีอดีต ส.ส.เดินทางไปฮ่องกงเพื่อพูดคุยเรื่องหัวหน้าพรรคกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าตนยังไม่ทราบและยังไม่มีข่าวนี้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกพรรคการเมืองที่จะต้องมีสภาวการณ์เปลี่ยนคณะกรรมการชุดใหม่ ซึ่งในกระบวนการนี้ก็จะเห็นถึงการเสนอความเห็นต่าง แต่สุดท้ายก็ต้องได้ข้อยุติร่วมกัน ดังนั้นวันนี้ข่าวจึงเป็นข่าวที่ลือกันออกไปที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

เมื่อมีคำถามว่า หากคุณหญิงสุดารัตน์ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคจะไม่มีความแตกแยกเกิดขึ้นใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ว่าจะเลือกใครก็ตาม ถ้าเป็นฉันทานุมัติ เชื่อว่าจะเป็นข้อยุติ และสมาชิกทุกคนมีวินัย ระบอบประชาธิปไตยก็เช่นเดียวกัน เราให้พี่น้องประชาชนตัดสินเรื่องรัฐบาล เมื่อเลือกมาแล้วพอใจหรือไม่พอใจก็ต้องรอให้ถึงวาระของการพิจารณาใหม่ สำหรับในพรรค กรรมการบริหารพรรคก็ต้องเสนอแนวทางการทำงาน เมื่อตัดสินใจเลือกใครไปแล้วก็ต้องให้เวลาเขาทำงาน ซึ่งจะพอใจหรือไม่ผลงานจะเป็นตัวชี้วัด สำหรับความไม่ชัดเจนของรายชื่อบุคคลที่ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค รวมถึงการเสนอ 3 รายชื่อนายกรัฐมนตรี จะทำให้กลายเป็นจุดอ่อนและทำให้คะแนนนิยมลดลงหรือไม่ 

ขณะเดียวกันในเรื่องนี้ยังไม่มีพรรคใดชัดเจนสักพรรคหนึ่งซึ่ง 3 รายชื่อนายกรัฐมนตรีจะเกิดขึ้น เมื่อมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาประกาศการเลือกตั้ง และตามกฎหมายจะต้องรอตรงนั้น ส่วนเรื่องหัวหน้าพรรคกฎหมายอนุญาตให้ดำเนินการจนถึงวันที่ 10 ธันวาคม ก็เป็นกระบวนการของพรรคตามปกติ ใน1-2 เดือนนี้จะต้องปรับกระบวนการทำงานของพรรคให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย 

ทั้งนี้เรื่องการเลือกบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องถึงมืออดีตนายกฯ ทักษิณหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้อนถามว่า ทำไมต้องถึงมือนายทักษิณ เพราะทั้งหมดเป็นเรื่องภายในพรรคที่ผู้ที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้ตัดสิน ส่วนกรณีที่อดีต ส.ส.เดินทางไปพบจะทำให้เกิดความกังวลว่าจะยุบพรรคหรือไม่นั้น เรื่องกลัวการยุบพรรค เป็นเรื่องที่ฝ่ายต่างๆมโนและคิดกันไปเอง 

ส่วนการที่อดีต ส.ส. นักการเมือง หรือบุคคล จะทำอะไรก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ประชาชนคนไทยมีสิทธิที่จะเดินทางไปไหนทำอะไรก็ได้ สิ่งที่กฎหมายพูดถึงคือเรื่องครอบงำกิจกรรมทางการเมือง นั้นหมายถึงว่าจะต้องมีประชุมและเข้าสั่งการภายในพรรค ซึ่งไม่ได้มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น พรรคเเพื่อไทยไม่ได้กังวลใจ และขอยืนยันว่าไม่เคยทำอะไรที่เป็นสิ่งผิดกฎหมายเลย และสิ่งที่ดำเนินการอยู่ก็ตรวจสอบได้ ดังนั้นไม่เคยกังวลว่าจะถูกยุบพรรคหรือไม่มีความปั่นป่วนอะไร แต่หากดำเนินการอะไรที่ไม่เหมาะสม หรือไม่ถูกต้องผู้กระทำก็ต้องรับผิดชอบเอง

นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า เวลานี้สิ่งที่ คสช.กำลังทำ คือการย้อนสิ่งที่ปกติ ย้อนสิ่งที่เคยทำ ส่วนตัวไม่เคยติดใจพรรคการเมืองที่ออกมากระทำการใดๆตอนนี้ เพราะเป็นสิ่งที่ทำได้ตามความเป็นจริง ควรไปพบพี่น้องประชาชนได้ เพื่อให้รับทราบนโยบายของพรรคให้มากที่สุด วันนี้ คสช.ได้สร้างกฎหมายที่ผิดปกติ กฎหมายที่ปิดกั้นประชาชนที่จะแสวงหาทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับชีวิตของเขา ซึ่งปัญหาอยู่ที่ คสช. กลัว สถานการณ์ต่างๆ มากเกินไป หรือคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำจะเป็นการสืบทอดอำนาจ ซึ่งต้องจัดการเรื่องนี้ ให้ประชาชนเข้าใจและรู้สึกสบายใจ ควรจะทำให้สาธารณชนเกิดความรู้สึกว่าประเทศไทยมีความยุติธรรมทุกฝ่ายคิดต่อกับพี่น้องประชาชนได้ ทำให้ประเทศเดินหน้าไปตามทิศทางที่เหมาะสมได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: