สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซ 'แจ็ค หม่า' เข้าพบคณะรัฐบาลไทย พร้อมกับลงนามบันทึกความเข้าใจกับทางไทย เพื่อกำหนดขอบเขตความร่วมมือการขยายตลาดอีคอมเมิร์ซโดยอาศัยแพลตฟอร์มของอาลีบาบา รวมถึงการจัดการด้านโลจิสติกส์ผ่านช่องทางของ Cainiao ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาลีบาบากรุ๊ป
แจ็ค หม่า เริ่มต้นทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซในปี 1999 ด้วยความเชื่อว่า อินเทอร์เน็ตจะช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขยายเล็กใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการเติบโตและการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในประเทศและเศรษฐกิจโลก ปัจจุบัน อาลีบาบากรุ๊ปมีแพลตฟอร์มในการขายสินค้าออนไลน์อยู่ทั้งหมด 6 ประเภท ไม่นับรวม Lazada.com ที่อาลีบาบากรุ๊ปซื้อหุ้นกว่าร้อยละ 83 เพื่อขยายฐานธุรกิจอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปี 2016
1.Taobao.com
เถาเป่า เว็บไซต์อีคอมเมิร์ชที่ใหญ่ที่สุดของจีน เปรียบเสมือนตลาดนัดออนไลน์ ชุมชนของพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการนำสินค้ามาวางขายทั้งบุคคลทั่วไปและกิจการขนาดเล็ก โดยเว็บไซต์ดังกล่าวเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2003
ปัจจุบันถือว่าเถาเป่าเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีมูลค่าการตลาดมากที่สุดในจีน โดยในปี 2016 เถาเป่ามีมูลค่าตลาดกว่า 2.3 แสนล้านหยวน
2.Tmall
ทีมอลล์ เป็นเว็บไซต์ตลาดอีคอมเมิร์ซในแบบ Business to consumer โดยผู้ค้าสามารถเปิดร้านค้าและขายสินค้าของตนเองผ่านหน้าเว็บไซต์ของทีมอลล์ได้ด้วยตนเอง ซึ่งสินค้าที่จัดจำหน่ายอยู่ในแฟลตฟอร์มดังกล่าวนั้นจะเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยมและเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีตราสินค้ารับรองที่ชัดเจน โดยเว็บไซต์ดังกล่าวมีผู้ค้ามีทั้งผลิตภัณฑื่มาจากต่างชาติและผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของจีนเองเข้ามาวางขายในแพลตฟอร์มดังกล่าว
และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ของไทยและอาลีบาบาร่วมกันเปิดตัว 'Thai Rice Flagship Store' บนเว็บไซต์ Tmall.com โดยหวังจะช่วยผลักดันยอดขายผลิตผลทางการเกษตร โดยเริ่มต้นจากข้าว และจะขยายไปถึงผลไม้ต่างๆ โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งเป็นผลไม้ที่เป็นที่นิยมของชาวจีน
3.AliExpress.com
เว็บไซต์ซื้อขายสินค้าในเครืออาลีบาบาที่เปิดตัวเมื่อปี 2010 เป็นแหล่งขายสินค้าออนไลน์ในตลาดระดับโลก เพื่อเป็นช่องทางที่ทั่วโลกสามารถเข้าไปสั่งซื้อสินค้าจากผู้ค้าในจีนได้โดยตรง ซึ่งอาลีบาบากรุ๊ประบุว่า Aliexpress เป็นที่นิยมอย่างมากในรัสเซีย สหรัฐฯ บราซิล สเปน ฝรั่งเศส และอังกฤษ
4.Alibaba.com
เว็บไซต์ Alibaba.com เป็นธุรกิจแรกของอาลีบาบากรุ๊ป ก่อตั้งเมื่อปี 1999 เป็นช่องทางการขายสินค้าออนไลน์ที่เปิดแพลตฟอร์มให้ผู้ค้าจากทั่วโลกสามารถนำสินค้ามาวางขายได้บนหน้าเว็บไซต์ ปัจจุบันยังรวมไปถึงการจัดการระบบขนส่งกระจายสินค้า ทำให้มีผู้ค้าและผู้ซื้อจากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจำหน่ายสินค้ากว่า 40 ประเภท
นอกจากนี้ Alibaba.com ยังมีบริการนำเข้า-ส่งออกสินค้าให้แก่บรรดาธุรกิจขนาดเล็ก รวมไปถึงการจัดระเบียบพิธีทางศุลกากร การทำเรื่องคืนภาษี และการจัดการระบบขนส่งให้แก่ภาคธุรกิจ SMEs อีกด้วย
5.1688.com
1688.com เป็นเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าส่งขนาดใหญ่ที่สุดที่พ่อค้าแม่ค้าหรือภาคธุรกิจของจีนซื้อขายกันในประเทศจีนเอง โดยเปิดตัวพร้อมกับ Alibaba.com ในปี 1999 ซึ่งสินค้าที่���างขายใน 1688.com เป็นสินค้าชิ้นใหญ่ๆ อย่างเช่นเครื่องมือการเกษตร สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนอุตสาหกรรม รวมไปถึงสินค้าเกษตรกรรมและเคมีภัณฑ์
6. Lazada.com
ปัจจุบัน Lazada.com เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของอาลีบาบากรุ๊ป ร่วมกับกลุ่มทุนอื่นๆ หลังจากเมื่อปี 2016 อาลีบาบากรุ๊ปซื้อหุ้นของ Lazada.com เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 83
ปัจจุบัน ลาซาดากรุ๊ปซึ่งมีสาขาอยู่ทั้ง 5 ประเทศในภูมิภาค ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และไทย โดยลักษณะแพลตฟอร์มการขายสินค้าของลาซาดานั้นคล้ายกับ Tmall แต่จะเน้นตลาดการซื้อขายภายในประเทศของแต่ละประเทศ
ขณะเดียวกัน อาลีบาบามีมูลค่าธุรกิจกว่า 470 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ชที่ใหญ่ที่สุดแซงหน้า Amazon.com เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซจากสหรัฐฯ นอกจาก ธุรกิจอีคอมเมิร์ซแล้ว อาลีบาบากรุ๊ปยังมีธุรกิจด้านการเงินอย่าง Ant Financial Services Group ซึ่งให้บริการด้านธุรกรรมทางการเงินประเภทต่างๆ รวมไปถึง Alipay และ MYbank ซึ่งเป็นธนาคารสำหรับ SMEs
นอกจากนี้ อาลีบาบากรุ๊ปยังได้เข้าสื่อธุรกิจสื่อ อย่าง South China Morning Post ซึ่งเป็นสื่อส่ิงพิมพ์และออนไลน์ขนาดใหญ่ของฮ่องกงเมื่อปี 2016 อีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: