Day Break เปิดวาร์ปพาไปเยือนถิ่นโอ่งมังกร ที่ราชบุรี สัมผัสสีสัน ศิลปะและวัฒนธรรมโบราณอันสวยงามที่ซ่อนตัวอยู่ในดินแดนลุ่มน้ำแม่กลองแห่งนี้

จากตำนานสองสหายชาวจีนผู้ชำนาญงานปั้นดินเผา สู่จุดกำเนิดโอ่งดิน ภูมิปัญหาท้องถิ่น อุตสาหกรรมพื้นบ้าน จนกลายเป็นสัญลักษณ์อันเลื่องชื่อที่คนราชบุรีภูมิใจ คนไทยและต่างชาติก็รู้จัก

โอ่งปั้นจากดินเหนียวเนื้อดี มีเอกลักษณ์เฉพาะ ทำให้โอ่งที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรง ทนทาน น้ำไม่รั่วซึม ไม่เกิดตะไคร่ และทำความสะอาดง่าย ทั้งยังโดดเด่นด้วยลวดลายมังกร สัตว์มงคลตามวัฒนธรรมธรรมจีน จนถูกขนามนามว่า "เมืองโอ่งมังกร"

โดย 1 ในแลนด์มาร์กที่รวบรวมเรื่องราวของโอ่งมังกรไว้มากที่สุด คือ "เรื่องของโอ่ง" แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประจำท้องถิ่น บอกเล่าเรื่องราวของโอ่งตั้งแต่ยุคแรกจนถึงปัจจุบัน จัดแสดงโอ่งเก่าแก่ที่เหลือยู่ไม่กี่ใบในราชบุรี รวมถึงโอ่งไฮไลต์ใบเดียวในโลกที่ต้องมาเห็นด้วยตาคุณเอง

และเปิดประสบการณ์กับมุมสาธิตการปั้นโอ่ง ให้ลองทำ ลองเล่น ลองเลอะกันจริงๆ ไปจนถึงขั้นตอนการขึ้นลวดลาย ที่ต้องใช้ความชำนาญไม่ต่างกัน แต่ก็มีวิธีง่ายๆ สำหรับนักท่องเที่ยวก็คือ การลอกลาย

"วัดคงคาราม" วัดมอญที่สร้างขึ้นโดยพระยามอญ ตั้งแต่ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาต่อกรุงธนบุรีและต้นรัตนโกสินทร์ โดยเฉพาะอุโบสถเก่าแก่หลังนี้ที่มีเจดีย์ทรงรามัญ 7 องค์รายรอบ จุดเช็กอินที่ห้ามพลาด ซึมซับเรื่องราวในอดีต ผ่านศิลปะความสวยงามที่ซ่อนตัวอยู่ในภายใน ตั้งแต่ประตูอุโบสถที่ทำจากไม้แกะสลัก ลวดลายอ่อนช้อย ส่วนภายในก็ชวนว้าวด้วยจิตรกรรมฝาผนังอายุไม่ต่ำกว่า 250 ปี เล่าเรื่องสวรรค์ชั้นต่าง ๆ พระพุทธประวัติ และพระพุทธชาดก ไว้อย่างวิจิตร ประณีต พร้อมชมของโบราณล้ำค่าอายุนับร้อยปี หาดูได้ยาก เช่น โลงศพแบบมอญ เครื่องถ้วยลายคราม ผ้าเก่าจากนานาชาติ ในพิพิธภัณฑ์ประจำวัดคงคาราม

มุ่งหน้าต่อสู่ "วัดขนอน" วัดที่มีส่วนสำคัญต่อการอนุรักษ์การแสดงหนังใหญ่ มหรสพเก่าแก่ สมบัติทางวัฒนธรรมของไทย ตัวหนังเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 5 ที่ถูกเก็บรักษาอย่างดี นำมาจัดแสดงให้ชมกันอย่างใกล้ชิด ส่วนไฮไลต์ ที่เรียกเสียงปรบมือจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ คือการแสดงสดหนังใหญ่ ที่เผยให้เห็นศิลปะการแสดงขั้นสูง ทั้งการร้อง การพากย์ การผลิต และการเชิดที่ต้องใช้ความชำนาญด้านโขนอย่างมาก โดยเฉพาะนักแสดงรุ่นใหม่ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมนี้ไว้ ยกนิ้วให้เลยจริง ๆ

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีความงามของโบราณสถานสมัยทวารวดี ที่ "วัดมหาธาตุวรวิหาร" งานสถาปัตยกรรมกรุงศรีอยุธยาซึ่งได้รับอิทธิพลจากขอม ถ่ายทอดผ่านพระปรางค์ประธานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ สิ่งก่อสร้างคู่พระนคร มีความสำคัญทางพระพุทธศาสนา และเป็นที่เคารพบูชาของชาวเมืองราชบุรี พร้อมสักการะพระพุทธรูปปูนปั้นแกนหินทรายขนาดใหญ่สมัยอยุธยาตอนต้นที่ประดิษฐานในวิหาร

ปิดท้ายกันที่ "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี" แหล่งรวบรวมประวัติศาตร์และวิวัฒนาการของเมืองนี้ รู้จักความเป็นมาในแต่ละยุคสมัย ความหลากหลายของศิลปวัฒนธรรมชนพื้นเมืองชาติพันธุ์ที่อพยพมาจากมอญ ศึกษาร่องรอยอารยธรรมจากวัตถุโบราณ ไม่ว่าจะเป็น "พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมี" ศิลปะขอมแบบบายน 1 ใน 5 องค์ที่ขุดพบในไทย และมีสภาพสมบูรณ์งดงามที่สุด โดยมีความเชื่อโบราณว่าถ้าขอพรที่นี่แล้วจะช่วยรักษาโรคภัยไขเจ็บ อีกชิ้นสำคัญที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองราชบุรี คือ "พระแสงดาบราชศัสตราประจำมณฑลราชบุรี" ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 พระราชทานให้เมื่อปี 2459 ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระมหากษัตริย์ และใช้ประกอบในพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา 

อีก 1 จังหวัดท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกล ด้วยระยะทางเพียง 100 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้น สามารถไปเช้า-เย็นกลับได้ หากมีโอกาสชวนแวะมาสัมผัสดินแดนวัฒนธรรมลุ่มแม่น้ำแม่กลอง แล้วคุณจะรู้ว่า "ราชบุรี ไม่ได้มีดีแค่ โอ่ง" จริง ๆ