หลายคนอาจจะไม่เคยทราบว่า 'การเดต' ก็มีเทรนด์กับเขาเหมือนกัน และล่าสุดสื่อในสหรัฐฯ ก็พูดถึงเทรนด์ใหม่ที่กำลังแพร่หลาย ซึ่งอาจจะดูไม่ดีนัก และน่าเป็นห่วงในระดับหนึ่งทีเดียว นั่นคือการ 'Most' ที่คนหนึ่งพยายามทำเหมือนว่ารักอีกฝ่าย ก่อนจะทิ้งไปอย่างไร้เยื่อใย
วันนี้หนอจะมาพูดถึงคำว่า Most และ Mosting ซึ่งก่อนจะอธิบายว่าเกี่ยวข้องอะไรกับการเดต ต้องพูดถึงคำว่า Ghost และ Ghosting ที่แปลว่า 'ผี' กันก่อน เพราะในทางการเดตแล้ว การ Ghost คือ การเดต ๆ กันสองสามครั้ง แล้วหายตัวไปเลย หรือก็คือที่เดี๋ยวนี้เราเรียกกันว่า 'เท' แล้วคนโดนเทก็ 'นก' ทีนี้ เมื่อมันถูกยกระดับขึ้นเป็น Most มันจึงกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่ดูจะร้ายแรงกับคนถูกเทมากกว่า
การ Most แตกต่างจากการ Ghost ตรงที่ คนกระทำนั้นสร้างความรู้สึกให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเป็นคนพิเศษ เป็นคนที่ใช่ หรืออาจจะถึงกับเป็นเนื้อคู่ จากนั้นถึงค่อย 'เท' ซึ่งแน่นอนว่าดูไม่จำเป็นและสร้างความเสียหายกับจิตใจฝ่ายตรงข้ามยิ่งกว่าการ Ghost และถ้าอิงจากบทความของ Huffington Post แล้ว จะสรุปได้ว่าคนที่ชอบ Most คนอื่น ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย
เรื่องนี้มีคนให้ความเห็นว่าปัญหาของคน Most คนอื่น อาจเกิดจาก 1 เป็นคนต้องการความรักแต่ไม่ชอบความใกล้ชิด หรือ 2 เป็นปัญหาทางพฤติกรรมอื่น ๆ หรือเป็นวิธีการแสดงออกที่ซึมซับมา ซึ่งนักบำบัดความสัมพันธ์คนหนึ่งได้สอบถามลูกค้าว่าทำไมจึง Most ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า อยากมาเพศสัมพันธ์แบบไม่จริงจัง ซึ่งถ้าพูดออกไปตรง ๆ ผู้หญิงจะไม่เอาด้วย
ด้านนักข่าวที่คิดคำว่า Most ขึ้นมาได้แสดงความเห็นว่า การ Most ของผู้ชายนี่ไม่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะยุคนี้สมัยนี้ คนพร้อมจะ 'ไม่จริงจัง' กันอยู่แล้ว มีแอปฯ หาคู่เดตมากมาย ไม่ควรทำพฤติกรรมที่ทำร้ายผู้อื่นแบบนี้ถ้าคุยถึงจุดนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่าการ Most เป็นไปเพื่อดึงดูดผู้หญิง หรือ คนที่ปกติไม่ Casual เพราะคน Casual ไม่น่าตื่นเต้นเสียแล้ว?