นายกรัฐมนตรีขอยุติชุมนุมร่วมถวายพระพรในหลวง ด้าน ศอ.รส. เร่งตรวจสอบรายชื่อผู้สนับสนุน "นายสุเทพ เทือกสุบรรณ" เนื่องจากเข้าข่ายสมรู้ร่วมคิดกับกบฏ
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้ารับฟังรายงานจากศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยหรือ ศอ.รส. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมระบุว่า สถานการณ์การชุมนุมขณะนี้ อยากขอความร่วมมือทุกคนและผู้ชุมนุม ได้ยุติการเคลื่อนไหวใดๆ
เพราะในวันพรุ่งนี้ (5 ธันวาคม) ถือเป็นช่วงเวลาและวันแห่งความสุขของคนไทย ที่จะร่วมกันแสดงความจงรักภักดี และถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา รวมถึงวันที่ 7 ธันวาคมนี้ จะเป็นวันจัดงานสโมสรสันติบาต อีกด้วย ก็เชื่อว่า ทุกคนจะให้ความร่วมมือ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ศอ.รส. อยู่ระหว่างตรวจสอบรายชื่อบริษัท ห้างร้าน และกลุ่มบุคคล ที่ให้การสนับสนุนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล
เนื่องจาก เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 114 สมรู้ร่วมคิดกับกบฏ ซึ่งมีโทษจำคุก ระหว่าง 3-15 ปี พร้อมเรียกร้องให้นายสุเทพ เข้ามอบตัวกับตำรวจ ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการเจรจากับรัฐบาล ส่วนแนวทางจัดตั้งสภาประชาชน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 และ 7 ได้หรือไม่นั้น อาจต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ และอยากให้นายสุเทพ กลับไปศึกษากฎหมายให้รอบคอบว่าทำได้หรือไม่
นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ ยังมีการนำภาพเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจถูกยิง ระหว่างการชุมนุมมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน โดยเป็นภาพเฮลิคอปเตอร์ รุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรอยกระสุน ซึ่งจาการตรวจสอบ พบว่า ระหว่างเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว กำลังร่อนลงบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เวลา 18.00 น. วันที่ 2 ธันวาคม 2556 เพื่อส่งเสบียงให้กับกำลังพล ถูกกระสุนยิงเข้าใส่ใบพัด และใต้ท้องเครื่อง ซึ่งเป็นการยิงจากพื้นดินในมุมเฉียงประมาณ 35 องศา แต่ยังไม่ทราบชนิดของกระสุนปืน ใบพัดเสียหาย มูลค่ากว่าล้านบาท
ขณะเดียวกัน ยังมีตำรวจได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดเข้าที่คอ บริเวณสะพานอรทัย เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2556 เวลา 05.00 น. ซึ่งบาดแผลทำลายหลอดลม และตำรวจนายดังกล่าวยังพักอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลตำรวจ
จึงขอเรียกร้องไปยังนายสุเทพ ให้ควบคุมการชุมนุมให้อยู่ในกฎเกณฑ์ อย่าทำร้ายตำรวจ หรือ ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง