ซีพีเอฟ เตรียมใช้งบประมาณกว่า 3.8 หมื่นล้านบาท ซื้อ "Bellisio" ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารแช่แข็งรายใหญ่ อันดับ 3 ของสหรัฐฯ เพื่อสร้างฐานการผลิตอาหารขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ว่า ได้เข้าซื้อกิจการ Bellisio Parent, LLC ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานประเภท Single Serve ที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 3 ในสหรัฐฯ ในราคา 1,075 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 38,161 ล้านบาท คาดว่าการเข้าซื้อกิจการ จะแล้วเสร็จใน 180 วัน นับจากวันลงนามในสัญญา โดยแหล่งเงิน มาจากกระแสเงินสดของซีพีเอฟ
ผลประโยชน์ที่ซีพีเอฟ จะได้จากการลงทุนครั้งนี้ คือ การขยายตลาดส่งออกสู่ทวีปอเมริกาเหนือ และยังใช้จุดแข็งระหว่างกันเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจได้ อาทิ การขยายช่องทางจัดจำหน่ายไปสู่ผู้บริโภครายย่อย การต่อยอดเข้าสู่ตลาดสินค้าและธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสในกลุ่มอาหารเอเชีย เพราะซีพีเอฟ มีความเชี่ยวชาญ มีเครือข่ายในเอเชียและประเทศต่างๆ ทั่วโลก ขณะที่กลุ่ม Bellisio มีธุรกิจหลักที่แข็งแกร่ง และมีตราสินค้าเป็นรู้จักทั่วไป
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการ ผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซีพีเอฟ มั่นใจ ซีพีเอฟและ Bellisio จะผสานจุดแข็งร่วมกัน ทำให้ผลิตสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ "ครัวของโลก" และยุทธศาสตร์ที่มุ่งขยายธุรกิจอาหารไปยังตลาดที่มีศักยภาพ และขณะนี้ กำลังพิจารณาซื้อกิจการในต่างประเทศอีกหลายธุรกิจ ที่เกี่ยวกับไก่ กุ้ง อาหารสำเร็จรูป และโลจิสติกส์ รวมทั้งสนใจธุรกิจ อาหารสุขภาพ อาหารผู้ป่วย และหุ่นยนต์ ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ที่ให้ความสำคัญ
กลุ่ม Bellisio ดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2533 มีสินค้าภายใต้แบรนด์ต่างๆ อาทิ Michelina's , Boston Market , Chilli's และ Atkins รวมถึงอาหารเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ EatingWell และ EAT! ที่เพิ่งวางจำหน่ายไปเมื่อเร็วๆ นี้
ปัจจุบันมี 4 โรงงาน ตั้งอยู่ในรัฐโอไฮโอ , แคลิฟอร์เนีย และมินนิโซตา รวมถึงมีช่องทางจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกในสหรัฐฯ กว่า 5 หมื่นแห่ง
ปี 2558 Bellisio มียอดขาย 20,888 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 501 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 16,049 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 13,428 ล้านบาท ขณะที่ รายได้สุทธิ รวม 12 เดือนล่าสุด อยู่ที่ 23,713 ล้านบาท