บาจา ทำตลาดเชิงรุก ทุ่มร้อยล้าน ปรับปรุง- เปิดสาขา - เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ เจาะกลุ่มวัยรุ่นมีกำลังซื้อมากขึ้น มั่นใจเพิ่มยอดขายได้ 10% ในปีหน้า
นายคาร์ลอส กราเซส กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท บาจา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บาจามีแผนลงทุน และรุกตลาดรองเท้าในไทยอย่างเต็มที่ รองรับการขยายตลาดที่เพิ่มขึ้นใน 3 ปี โดยปีนี้ได้รีแบรนด์ภาพลักษณ์ให้ทันสมัย และปรับดีไซน์ร้านเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น
ในปี 2558 บาจาเตรียมเปิดร้านบาจา และร้านในเครือรวมกันทั้งหมด 22 สาขา งบลงทุน 50 ล้านบาท และปรับโฉมร้านอีก 28 สาขา ด้วยงบลงทุน 62 ล้านบาท และพัฒนาสาขาอื่น รวมงบลงทุน 121 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถเพิ่มยอดขายได้ร้อยละ 10ในปีหน้า
นายอนวัช สังขะทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท บาจา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บาจาเป็นแบรนด์หลักและมีแบรนด์ย่อยด้วย โดยปัจจุบันยอดขายของแบรนด์บาจา มีสัดส่วน 80% ของรายได้รวม ส่วนแบรนด์รองอีก 7 แบรนด์ ได้แก่ North Star , Power, Weinbrenner, Marie Claire, Sundrops, Bubblegummers และ Be First รองเท้านักเรียนผลิตในประเทศ มีสัดส่วนยอดขาย 8% โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก เป็นผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป
แต่ในปีหน้า บาจาจะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มวัยรุ่น โดยการออกแบบรองเท้าที่ทันสมัย และจับกลุ่มลูกค้าที่มีระดับรายได้สูงขึ้น หรือกลุ่มเอ-บี
ส่วนการขยายโรงงาน บาจา กำลังศึกษาทำเล ทั้งในและต่างประเทศ เน้นในโซนประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ บาจาได้ปรับภาพลักษณ์ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ร้านที่ปรับโฉมใหม่ มียอดขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20% และในปีนี้ได้ปรับโฉมร้านแล้ว 33 ร้าน จากทั้งหมด 280 สาขา แบ่งเป็นร้านในห้างสรรพสินค้า 249 สาขา สตรีท ช็อป 29 และบาจา เดสทิเนชั่น สโตร์ ตามหัวเมืองใหญ่อีก 4 แห่ง ได้แก่ พัทยา, หาดใหญ่, เชียงใหม่ และปากช่อง
ปัจจุบัน บาจามีร้านค้าปลีกตั้งอยู่ใน 70 ประเทศทั่วโลก มีสาขามากกว่า 5,000 แห่ง โดยผู้ก่อตั้ง คือ มิสเตอร์โทมัส จอห์น บาต้า (Mr.Thomas John Bata) สร้างแบรนด์รองเท้าบาจา จำหน่ายในเมืองชลิน สหพันธ์รัฐเชคโกสโลวาเกีย เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ.1894
จากนั้น บาจา ขยายการจหน่ายไปทั่วโลก รวมถึงในไทย ตั้งแต่ปี 2472 หรือกว่า 85 ปี สาขาแรกตั้งอยู่ที่ถนนเจริญกรุง