เครือเซ็นทรัล เดินหน้าซื้อกิจการในต่างประเทศ และยังคงเน้นในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ล่าสุดกำลังอยู่ในระหว่างเจรจาซื้อห้างสรรพสินค้าที่เยอรมนี ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจในอียูที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน
นายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ กรรมการและประธานคณะที่ปรึกษา บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ตั้งงบประมาณการลงทุนในต่างประเทศไว้ที่ 10,000 ล้านบาท โดยมีทั้งการซื้อกิจการ หรือการควบรวมกิจการในธุรกิจที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง และฐานธุรกิจให้มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงสร้างความพร้อมของเซ็นทรัล ให้เข้าสู่การแข่งขันในตลาดระดับโลก
กลุ่มเซ็นทรัลให้ความสำคัญต่อการขยายตลาดทั้งในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ และยุโรป ซึ่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นเดียวกับตลาดยุโรป ที่ยังน่าสนใจ แม้ว่าขณะนี้หลายประเทศจะประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่อนาคตยังมีศักยภาพ ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คาดคิด เพราะแม้จะมีหลายประเทศประสบปัญหาทางเศรษฐกิจตอนนี้ แต่ก็ยังมีบางประเทศที่เศรษฐกิจยังดีอยู่
เว็บไซต์เมเนเจอร์ รายงานว่า ในเร็วๆ นี้คาดว่าจะมีข้อสรุปถึงการเจรจาซื้อห้างสรรพสินค้าดังและเก่าแก่แห่งหนึ่ง ในประเทศเยอรมนี ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้บริหาร สำหรับห้างสรรพสินค้าที่ดังและเก่าแก่ที่เปิดกิจการในเยอรมนีและที่เป็นของเยอรมนีเอง เช่น ห้างกาลารีล เคาโฮบ, คาร์ลสทัด์ส, บอยริงเกอร์, กาลารี ลาฟาเยท์เทอร์, เฮมา, คาเดเว, มีสซูโดซิ, มูลเลอร์ และวูลวอร์ท ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเบอร์ลิน
ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มเซ็นทรัลซื้อกิจการห้างสรรพสินค้าในยุโรป แล้ว 2 แห่ง คือ เมื่อปี 2554 ได้เข้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้า ลา รีนาเชนเต ในประเทศอิตาลี ด้วยเงินลงทุนประมาณ 260 ล้านย���โร หรือประมาณ 11,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้คืนทุนแล้ว จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 8 ปี ซึ่งเฉพาะไตรมาสแรก ปี 2558 นี้มียอดขายเติบโตถึง 11% ส่วนอีก 1 แห่ง คือ การเข้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้าอิลลุม ในประเทศเดนมาร์ก