สำนักข่าว BBC รายงานว่า องค์หญิงบาสมาห์ บินต์ อับดุลลาซิซ พระราชธิดาองค์สุดท้องของอดีตสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งซาอุดีอาระเบีย พระชนมายุ 56 พรรษา พร้อมด้วยพระธิดา ได้รับการปล่อยตัวแล้วอย่างเป็นทางการหลังถูกสั่งจำคุกในเรือนจำ Al-Ha'ir ใกล้เมืองหลวงที่มีการรักษาความปลอดภัยในระดับสูงเกือบ 3 ปีเต็มโดยไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ
องค์หญิงบาสมาห์ถูกจับกุมตัวในเดือน มี.ค.2562 ขณะที่พระองค์กำลังจะเดินทางไปรักษาตัวที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประเด็นที่ว่าทำไมพระองค์และพระธิดาจึงถูกจับกุมตัวยังไม่เคยถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ และทั้งสองพระองค์ก็ไม่เคยถูกตั้งข้อกล่าวหาใดๆ ทั้งสิ้น
หนึ่งในความเป็นไปได้ซึ่งหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตก็คือการที่องค์หญิงบาสมาห์มีการเคลื่อนไหวเพื่อต่อสู้เรื่อง 'สิทธิมนุษยชน' และการสนับสนุนการ 'ปฏิรูปรัฐธรรมนูญ' ของซาอุดีอาราเบียมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนองค์หญิงฯ ก็วิเคราะห์ว่าอีกหนึ่งสาเหตุคือการที่พระองค์มีความใกล้ชิดกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ อดีตมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นพระราชนัดดาหรือหลานของกษัตริย์ซัลมาน ที่ถูกจับกุมและกักบริเวณที่บ้านพักเมื่อเดือน มี.ค.2563
ด้านสำนักข่าว AFP เคยรายงานว่า ครอบครัวขององค์หญิงบาสมาห์ได้เปิดเผยกับสหประชาชาติ หรือ UN ผ่านแถลงการณ์ที่เป็นลายลักษณ์อักษรในปี 2563 ว่าการจับกุมอาจมีสาเหตุมาจากการที่องค์หญิงบาสมาห์เป็นหนึ่งในผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ 'การกระทำในทางที่ผิด' ในรูปแบบต่างๆ (Abuses)
องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ALQST ในซาอุดีฯ ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า องค์หญิงบาสมาห์ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้ารับการรักษาตัวระหว่างการถูกคุมขัง แม้ว่าพระองค์จะต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่อาจมี "อันตรายถึงชีวิต" ก็ตาม ขณะที่ไม่เคยมีการเปิดเผยว่าอาการป่วยที่พระองค์ต้องการเดินทางไปรักษาที่สวิตเซอร์แลนด์ครั้งที่ถูกจับกุมตัวนั้นคือการป่วยด้วยโรคอะไร