อิยาด ฮาลัก วัย 32 ปี ถูกยิงขณะเดินไปโรงเรียนผู้มีความต้องการพิเศษ โดยทางตำรวจอิสราเอลกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อคิดว่าอิยาดถืออาวุธเอาไว้ในมือ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จตำรวจรายดังกล่าวจะทำการเปิดฉากยิงใส่ฮาลัก เนื่องจากชายป่วยออทิสติกไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้หยุด
ในคำตัดสิน ศาลแขวงกรุงเยรูซาเล็มเห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของอิสราเอล "กระทำผิดพลาดโดยสุจริต" ในขณะที่แม่ของฮาลักประณามคำตัดสินว่าเป็น "ความอยุติธรรมอย่างชัดเจน" อย่างไรก็ดี ผู้บัญชาการตำรวจและรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอลออกมาแสดงความยินดีต่อคำตัดสินในครั้งนี้
ครอบครัวของฮาลักกล่าวว่า ฮาลักมีอาการออทิสติกขั้นรุนแรงที่สุด และมีปัญหาในการสื่อสาร โดยในทุกวันฮาลักจะเดินจากบ้านของเขาในเขตวาดี อัล-โจซ ของกรุงเยรูซาเล็ม ไปยังเมืองเก่าเพื่อไปยังศูนย์สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่มีความพิการ
ศาลแขวงกรุงเยรูซาเล็มระบุในคำตัดสินว่า ในวันที่ฮาลักถูกสังหารเมื่อเดือน พ.ค. 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจชายแดนใกล้เมืองเก่า ตั้งข้อสงสัยว่าฮาลักกำลังวางแผนที่จะทำการโจมตี ทั้งนี้ ฮาลักได้พยายามวิ่งหนีเมื่อเจ้าหน้าที่เดินเข้ามาใกล้และสั่งให้เขาหยุด
ตามรายงานของศาล จำเลยซึ่งเป็นตำรวจชายแดนได้เข้าติดตามฮาลัก พร้อมกันกับเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่ง และยิงฮาลักเข้าที่ขา หลังจากที่ฮาลักวิ่งเข้าไปในตรอกและพยายามซ่อนตัวในห้องเก็บขยะ ทั้งนี้ จำเลยยิงฮาลักเข้าที่หน้าอก หลังจากที่ฮาลักลุกขึ้นและชี้นิ้วไปที่ครูผู้หญิง ซึ่งเป็นครูที่ปรึกษาของเขาในโรงเรียน ขณะที่ครูคนนั้นพยายามปกป้องฮาลักเอาไว้
คำฟ้องดังกล่าวกล่าวหาว่าจำเลย "ยิงปืนไปที่ร่างกายท่อนบน (ของฮาลัก) ดังนั้น จึงเป็นการเสี่ยงต่อการเสียชีวิตโดยไม่สมควร" แม้ว่าฮาลักจะได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้ถืออาวุธอะไรอยู่ในมือ และไม่ได้ทำสิ่งใดเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเช่นนั้น แต่ศาลรับฟังคำร้องของจำเลยว่า การยิงปืนใส่ฮาลักเป็นการกระทำเพื่อการป้องกันตัว โดยคำร้องระบุว่า เขาทำ "ความผิดพลาดโดยสุจริต (โดยเชื่อว่า) เขาเผชิญหน้ากับผู้ก่อการร้ายติดอาวุธ" และ "ไม่รู้ว่า (ฮาลัก) เป็นผู้บริสุทธิ์ที่มีความต้องการพิเศษ"
หลังคำตัดสิน รานา แม่ของฮาลักกล่าวกับสำนักข่าว AFP ว่า "ตอนนี้ลูกชายของฉันอยู่ในหลุมฝังศพ และฆาตกรของเขากำลังผ่อนคลาย ออกไปข้างนอก และสนุกสนาน" ในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศปาเลสไตน์กล่าวว่า การยกฟ้องเป็น "หลักฐานเพิ่มเติมว่าระบบการพิจารณาคดีของอิสราเอล เป็นส่วนหนึ่งของระบบการยึดครอง (ปาเลสไตน์)"
โคบี ชับไต ผู้บัญชาการตำรวจอิสราเอล ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจชายแดนในขณะนั้น กล่าวว่า การสังหารฮาลักนั้นเป็นเรื่อง "โชคไม่ดี" และเขาเชื่อว่าคำตัดสินของศาลนั้น "ถูกต้อง" แล้ว
ที่มา: