ร.ท. ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พร้อมแกนนำพรรคนำ 106 รายชื่อผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อยื่นต่อ กกต. โดยคาดหวังว่าจะได้รับเลือกอย่างน้อย 50-60 รายชื่อ ส่วนรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคยังไม่ถึงเวลายื่น แต่ไม่เกินภายในวันที่ 8 ก.พ.นี้ และอาจจะมีเซอร์ไพรส์ แต่ไม่ตอบว่าอาจจะมีชื่ออื่นหรือไม่ หรือจะเป็นคนในตระกูลชินวัตรหรือไม่ รอให้เปิดเผยทีเดียวในวันที่เสนอรายชื่อแคนดิเดต
ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง ทษช. กล่าวว่า ไม่มีการฮั้วกันในการส่งผู้สมัครลงในแต่ละพื้นที่ เพราะในแต่ละพื้นที่ยังมีพรรคอื่นๆ ลงสมัครด้วย ไม่ใช่พรรค ทษช. ไม่ส่งผู้สมัครประชาชนจะเทคะแนนให้เพื่อไทยเพียงพรรคเดียว ส่วนพรรคใดจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายจาตุรนต์ ระบุว่า พรรคฝ่ายประชาธิปไตยต้องมาตกลงกัน หากชนะการเลือกตั้ง เพราะรายชื่อที่จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีมาได้ทั้งพรรคใหญ่และพรรคเล็ก แต่เมื่อเข้าไปในสภาแล้วไม่ใช่ว่าแต่ละพรรคจะเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของตัวเอง เพราะต้องมาตกลงกันว่าจะให้แคนดิเดตของพรรคไหนเป็นนายกฯ ไม่เช่นนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะชนะการเลือกตั้งเพราะมีเสียง ส.ว. 250 คนในกระเป๋า พร้อมย้ำว่าพรรคฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องได้เก้าอี้ 376 ที่นั่ง
และสุดท้ายพรรคฝ่ายประชาธิปไตยต้องยกมือให้แคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียวจึงจะสู้กับ พล.อ.ประยุทธ์ได้ ส่วนจะเป็นใครยังไม่มีการตกลงล่วงหน้า หรือจะเป็นแคนดิเดตจากพรรคใหญ่หรือพรรคเล็กฝ่ายประชาธิปไตยต้องหารือกัน ฟังเสียงจากหลายๆพรรค ไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคที่ได้เสียงมากที่สุดอย่างเดียว ดังนั้นจึงไม่ตัด ทษช. ออกจากความเป็นไปได้ในการเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะในอดีตพรรคของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ มี 18 เสียงยังได้เป็นนายกฯ แต่หลักสำคัญคือพรรคฝ่ายประชาธิปไตยสนับสนุนกันแน่ และยืนยันว่าพรรคไทยรักษาชาติไม่ร่วมเป็นรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐแน่นอน เพื่อสู้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีอยู่แล้ว 250 ที่นั่งจาก ส.ว.
โดยรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. 10 อันดับ ได้แก่