อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทยและอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยเข้าสมัครสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ต่อเนื่อง นำโดยนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย รวมทั้งแกนนำ นปช. นำโดยนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นอกจากนี้ยังมีนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ร่วมสมัครสมาชิก ทษช.ด้วย 

ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคทษช. ระบุว่า ทุกคนที่มาสมัครสมาชิกพรรคมีจุดยืนประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ ทษช.แม้มีอายุไม่นานแต่เติบโตแข็งแรงขึ้น มีสมาชิกที่มีความรู้ความสามารถ บุคลากรที่มาร่วมงานโดยจะใช้ประสบการณ์เสริมความแข็งแกร่งให้กับพรรค

นายจาตุรนต์ ฉายแสง ระบุว่า ได้รับเชิญมาสมัคร ทษช. ตนลาออกจากพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เพราะความขัดแย้งกับแกนนำพรรคเพื่อไทย และไม่มีปัญหาแตกต่างทางอุดมการณ์และนโยบาย ไม่ใช่ตนไม่มีบทบาท ไม่ใช่มาทษช. เพื่อแก้ปัญหาส่วนตัว แต่มาเพราะโจทย์คือสถานการณ์การเมืองพัฒนาจากการรัฐประหาร และเหตุการณ์ปรากฎชัดเจน และควรอยู่ตรงไหนให้ประเทศประชาธิปไตยที่สุด สถานการณ์ประเทศขณะนี้มีอยู่สองฝ่าย คือฝ่ายเผด็จการสืบทอดอำนาจและฝ่ายประชาธิปไตย โจทย์ของประชาธิปไตยจะหยุดยั้งเผด็จการอย่างไร เพราะอาจตกอยู่ภายใต้อำนาจ คสช. 10-20 ปี มีการวางกติกาเอื้อต่อการสืบทอดอำนาจ มีการให้ ส.ว. 250 คนเลือกนายกฯได้ ถึงกับการประกาศว่ารัฐธรรมนูญนี้ดีไซน์เพื่อพวกเรา มีการแทรกแซงการเลือกตั้ง

"พรรคการเมืองใหญ่จะถูกสกัดไม่ให้มีเสียงข้างมากยากมากเป็นพิเศษ เนื่องจากกติกา แม้จะได้ส.ส.เขตครึ่งหนึ่ง แต่การคำนวณคะแนนจะเป็นเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎร เหมือนเจาะจงให้มีผลต่อพรรคการเมืองใหญ่บางพรรคเหมือนประตูกล กับดักเล่นงานพรรคการเมืองใหญ่ ผ่านประตูกลนี้ไม่ได้ ทั้งนี้ ไม่ใช่กับดักนักการเมืองแต่เป็นกับดักที่มุ่งให้มีผลเสียต่อฝ่ายประชาธิปไตย เมื่อรู้เท่าทัน รู้หมากกล นักการเมืองสามารถทำให้พ้นกับดัก ผมขอเป็นฝ่ายประชาธิปไตยทำให้พ้นกับดักนี้ไปได้ และลดการสืบทอดอำนาจเพื่อให้ฝ่ายประชาธิปไตยเป็นรัฐบาล เพิ่มความเป็นไปได้ให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย"

นายจาตุรนต์ ระบุว่า ถ้าไม่แก้กับดักนี้ ตนเห็นว่าพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยหากไม่สามารถฝ่ากับดักนี้ไปได้เจอมาตรการต่างๆ ก็จะเกิดการสืบทอดอำนาจยาวนานเป็นประวัติศาสตร์ ถ้าผู้นำ คสช. ใช้วิธีนี้จนประสบความสำเร็จการบริหารประเทศจะอยู่ภายใต้ระบบที่วางไว้ส่งผลเสียต่อประเทศ จะกลายเป็นรัฐบาลที่นำไปสู่วิกฤต บริหารประเทศไม่ตรงเจตจำนงประชาชน การยื้อกันของฝ่ายเผด็จการและประชาธิปไตยทำมาตลอด หากปล่อยให้ฝ่ายเผด็จการประสบความสำเร็จคือการยอมให้สืบทอดอำนาจยาวนาน

"ถ้าตั้งนายกฯได้มีเสียง 250 เสียงอีก126 เสียงรัฐบาลนี้จะบริหารประเทศไม่ได้เพราะได้เสียงส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรไม่ถึงครึ่ง ฝ่ายประชาธิปไตยต้องได้251 เสียงในสภาหยุดยั้งตั้งรัฐบาลการสืบทอดอำนาจ คสช. ถ้าเขาได้เสียงเกินครึ่งเขาได้เป็นบริหารได้จะราบรื่นหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง เสียงข้างน้อยอาจต้องเป็นรัฐบาล ฝ่ายประชาธิปไตยต้องไม่ให้เขาตั้งรัฐบาลได้ง่ายๆ" นายจาตุรนต์กล่าว

ถามว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประกาศจะตั้งรัฐบาลโดยได้เสียง 350 ที่นั่ง นายจาตุรนต์ ระบุว่า ชัดเจนเป็นการวางแผน มีการใช้การเดินสายรัฐมนตรีดึงนักการเมืองร่วมกันโดยมีเงื่อนไขต่างๆ เมื่อรวมคนได้มากประกาศว่ารัฐธรรมนูญออกแบบมาเพื่อพวกเรา ซึ่งเป็นไปตามแผนสืบทอดอำนาจ ดังนั้นจะทำอย่างไรให้พรรคการเมืองได้เสียงในฝ่ายประชาธิปไตยมากที่สุด 

"พรรคการเมืองใดสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนของ คสช. เป็นเรื่องสำคัญที่สุด พรรคการเมืองแต่ละพรรคควรประกาศให้ชัดเจนแต่ต้น"

นายจาตุรนต์ ระบุว่า ตนตอบแทนพรรคเพื่อไทยไม่ได้ ว่ามาสมัครทษช. คิดผิดหรือไม่ แต่ต้องไว้หารือกัน แล้วหัวหน้า ทษช. จะพูดเรื่องนี้ ทั้งนี้ยากมากที่พรรคการเมืองพรรคเดียวจะรวมเสียงให้ได้เกิน 250 เสียง แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องร่วมมือระหว่างพรรคการเมือง

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. และสมาชิกทษช. ระบุว่า จนถึงวันนี้ยังรู้สึกดีทุกก้าวย่างที่ได้ร่วมทางกับพรรคเพื่อไทย แต่สถานการณ์ปัจจุบันยังเป็นการต่อสู้ระหว่างฝั่งเผด็จการและประชาธิปไตย คำมั่นของตนจะต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขณะเดียวกันการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นหมุดหมายสำคัญจะสืบทอดอำนาจของรัฐประหารหรือตั้งต้นไปสู่ประชาธิปไตยอีกครั้ง เราเห็นตรงกันว่ากติกาไม่ได้ออกแบบเพื่อพวกเรา เราจึงออกการต่อสู้ให้สอดคล้องกติกาเอาชนะการสืบทอดอำนาจของเผด็จการผ่านการตัดสินใจของประชาชน

"ไม่มีข้อเรียกร้องต้องเป็นผู้สมัคร มีคำเดียว ทษช. ต้องไม่เปลี่ยนแปลงหลักการ หลังตัดสินใจเช่นนี้ ผมและเพื่อนมิตรจะขอปฏิบัติงานตามที่คณะทำงานมอบหมาย" นายณัฐวุฒิระบุ

เมื่อถามว่า จะบอกอย่างไรกับประชาชนว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคแบ่งเขต และพรรคทษช. เป็นพรรคบัญชีรายชื่อ นายณัฐวุฒิ บอกว่าหัวหน้า ทษช. ยืนยันว่าไม่ได้เป็นพรรคปาร์ตี้ลิสต์ แต่เป็นพรรคยืนยันประชาธิปไตย ได้คะแนนเสียงเท่าไรพรรคนี้จะยืนยันประชาธิปไตย ตนจะทำให้ประชาชนทุกฝ่ายมอบคะแนนให้พรรคการเมืองที่ตนสังกัดให้ได้

"พวกเราพี่น้องแกนนำนปช.หารือนอกรอบจะไม่ตั้งพรรคการเมือง ส่วนสมาชิก นปช.ท่านใดไปร่วมงานพรรคการเมืองใดเป็นเสรีภาพ ตราบใดที่เป็นพรรคการเมืองของฝ่ายประชาธิปไตย ถ้าใครไปร่วมเผด็จการถือว่าขาดกัน ส่วนคุณจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นกองเชียร์พรรคเพื่อชาติไม่ได้เป็นความขัดแย้ง ไม่มีการประกาศยุติองค์กร นปช. นปช.ยังเป็นองค์กรต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย" นายณัฐวุฒิ ระบุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• 'จาตุรนต์' อำลาแกนนำ พท. ยกตระกูล 'ฉายแสง' ไป ทษช.
• ทษช. เปิดตัว 'โปรช้าง' - 'จาตุรนต์ - ณัฐวุฒิ' ร่วมทัพ 19 พ.ย.