ไม่พบผลการค้นหา
เมียนมาร์แบนสินค้าจากประเทศสิงคโปร์ เรียกร้องให้สิงคโปร์ยืนเคียงข้างชาวเมียนมาและ 'ประชาธิปไตย'

สิงคโปร์คือประเทศที่มีการเข้าไปลงทุนในประเทศเมียนมามากที่เมื่อเทียบกับชาติอื่นๆ และแม้ว่าขณะนี้นานาประเทศทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน ไปจนถึงภาคธุรกิจ จะออกมาแสดงการต่อต้านการก่อรัฐประหารของกองทัพเมียนมาที่เกิดขึ้นในวันที่ 1 ก.พ. แต่ความเคลื่อนไหวจากฝั่งสิงคโปร์ยังไม่มีให้เห็นมากนัก ชาวเมียนมาร์จึงออกมาวิพากษ์วิจารณ์แบรนด์สินค้าด้านอาหารและเครื่องดื่มชื่อดังจากอยากสิงคโปร์มากมายอย่างหนัก ที่ยังไม่ออกมาแสดงการต่อต้านการก่อรัฐประหาร ทั้งๆ ที่ผู้บริโภคซึ่งเป็นลูกค้าของสินค้าเหล่านี้กำลังถูกริดรอนสิทธิเสรีภาพ

บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้งทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กมีการแชร์ภาพกราฟฟิกของแคมเปญรณรงค์ 'คว่ำบาตร' สินค้าเหล่านี้จากสิงคโปร์ ไม่ว่าจะเป็น Tiger Beer, BreadTalk, Ya Kun Kaya Toast, Beauty In The Pot, Crystal Jade Kitchen, และ Ippudo ฯลฯ โดยมีข้อความบรรยายแสดงออกถึงความไม่พอใจ เช่น "สิงคโปร์ไม่เคารพเสียงของประชาชนขาวพม่า" "สิงคโปร์สนับสนุนเผด็จการ" พร้อมมีการติดแฮชแทค #BoycottSingapore และ #WhatsHappeningInMyanmar เป็นวงกว้าง

ด้าน วิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ กล่าวในสภาเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ว่า ไม่ว่าจะในช่วงเวลาที่ดีหรือร้าย สิ่งสำคัญคือการแยกการเมืองออกจากการทำธุรกิจ และปล่อยให้ภาคธุรกิจได้ตัดสินใจในการลงทุนและการค้าเอง ซึ่งในขณะนี้คือเวลาที่ดีที่สิงคโปร์จะได้รักษาระเบียบนั้นไว้

"ฉะนั้นผมจะไม่มีทางให้คำแนะนำใดกับบริษัทต่างๆ แต่ผมจะทำให้เต็มที่ในการเปิดเผยข้อมูลสำคัญทั้งต่อสภานี้และนอกเหนือจากที่นี่ เพื่อที่ว่าภาคธุรกิจจะได้ตัดสินใจทั้งในด้านการค้าและการลงทุนด้วยตัวของพวกเขาเอง" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์กล่าว

ทั้งนี้ สิงคโปร์เป็นประเทศที่เข้าไปลงทุนสูงที่สุดในเมียนมา ด้วยเม็ดเงินการลงทุนที่ได้รับการอนุมัติเเล้วรวมอย่างน้อย 24,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 722,457 ล้านบาท (ตัวเลขที่ถูกรายงานล่าสุดในเดือน ธ.ค. 2563) โดยการลงทุนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายใต้รัฐบาลพรรค NLD ของอองซาน ซูจี ที่มาจากการเลือกตั้ง ถือเป็นเม็ดเงินที่เพิ่มสูงขึ้นจากก่อนหน้าที่พรรค NLD จะขึ้นมาอยู่ในอำนาจราว '10 เท่า'

่ท่าเรือ - สิงคโปร์ - AFP