ไม่พบผลการค้นหา
"ศรีสุวรรณ" ยื่น ป.ป.ช. เอาผิด ผอ.เขตจตุจักรตัดต้นจามจุรีขนาดใหญ่ อายุ 50 ปี ริมทางเท้า พร้อมยื่นเอาผิด " พล.อ.อนุพงษ์" ออกประกาศกำจัดขยะเอื้อบุตรชาย

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ขอให้ตรวจสอบ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้อำนาจความเป็นรัฐมนตรี อาจเข้าข่ายการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 184(2) ประกอบมาตรา 186 และตามพ.ร.บ. ป.ป.ช. มาตรา 126 จากการออกประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการจัดการมูลฝอย และมีหนังสือให้ผู้ว่าฯทุกจังหวัดกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวมกลุ่มพื้นที่ในการจัดการมูลฝอย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้เอกชนเข้าร่วมทุนหรือจัดการขยะง่ายขึ้น


28934.jpg

รวมถึงกรณีที่นายยุทธพงศ์ เผ่าจินดา บุตรชายพล.อ.อนุพงษ์ เข้าพบ นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรื่องการบริหารจัดการขยะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2561 ซึ่งนายยุทธพงศ์ ไม่มีตำแหน่งใดๆ เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน การเข้าพบผู้ว่าฯภูเก็ตจึงเป็นเรื่องผิดปกติ และอาจเกี่ยวข้องกับการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับผลประโยชน์ส่วนรวม 

ขณะเดียวกันยังขอให้ป.ป.ช.มีหมายคำสั่งเรียกไปยัง ผู้ว่าฯภูเก็ต ปลัดโก้ ในฐานะเจ้าของเรื่องผู้ประสานงาน และแอดมินผู้ดูแลเว็บไซต์ phuket.go.th มาให้ข้อมูลหรือไตรสวนเพิ่มเติม หลังจากที่เว็บไซต์ดังกล่าวได้แก้ไขวาระงานผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดภูเก็ต ด้วยการลบวาระในส่วนที่นายยุทธพงศ์ขอเข้าพบนายนรภัทร ซึ่งหากพบว่ามีการให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลในการปิดบังข้อมูลข่าวสาร ป.ป.ช.ควรเสนอไปยังผู้บังคับบัญชา หรือนายกรัฐมนตรี เพื่อลงโทษตามวินัยข้าราชการ

ยื่นเอาผิด ผอ.เขตจตุจักรตัดต้นจามจุรี

ขณะเดียวกัน นายศรีสุวรรณ ยังยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ให้ไต่สวนเอาผิดนายปกครอง พลเมือง ผอ.เขตจตุจักร กรณีสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการตัดโค่นต้นจามจุรีขนาดใหญ่เส้นรอบวงโคนต้น 312 ซม.อายุ 50 ปีทิ้ง บริเวณริมทางเท้า ถ.เทศบาลสงเคราะห์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา

นายศรีสุวรรณ ระบุว่า แม้ต้นจามจุรีดังกล่าวจะขึ้นอยู่กลางแนวรั้วระหว่างที่ดินเอกชนกับแนวฟุตบาทซึ่งเป็นที่สาธารณะสัดส่วน 50/50 ก็ตาม แต่ส่วนหนึ่งอยู่ในที่ดินสาธารณะที่พลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่ง ผอ.เขตจตุจักร มีอำนาจหน้าที่ในการดูแล ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน 2553 และการตัดโค่นต้นจามจุรีต้นดังกล่าวซึ่งส่วนหนึ่งเป็นของ กทม.ย่อมเป็นทรัพย์สินของสาธารณะ หรือของทางราชการ ซึ่งสามารถคำนวณเป็นมูลค่าได้ เพราะกรุงเทพมหานครต้องเสียค่าบำรุง รักษา มาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี ย่อมมีค่าใช้จ่ายไปหลายแสนบาทแล้วด้วย ดังนั้น เมื่อมีการตัดโค่นย่อมทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของทางราชการ หรือทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์อีกด้วย

แม้ ผอ.เขตจตุจักร จะกล่าวอ้างได้ว่าสามารถทำได้เพราะมีคำส่งกรุงเทพมหานครที่ 370/2556 เรื่อง มอบอำนาจให้ข้าราชการกรุงเทพมหานครปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครก็ตาม แต่การจะใช้อำนาจดังกล่าวต้องคำนึงถึงบริบททางกฎหมายอื่นที่บัญญัติห้ามไว้ด้วย โดยเฉพาะการทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360

นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า ต้นจามจุรีดังกล่าวมีขนาดใหญ่ มีเส้นรอบโคน 312 ซม. มีความยาวท่อนโคนประมาณ 10 ฟุต และท่อนปลายอีกมาก มีเนื้อไม้ปริมาตรหลายร้อยลูกบาศก์ฟุต เมื่อนำไปจำหน่ายตามระเบียบของทางราชการจะมีมูลค่าหลายแสนบาทเลยทีเดียว แต่ทว่า ไม่ปรากฏว่า มีการนำท่อนต้นจามจุรีดังกล่าวไปประมูลขายหรือจำหน่ายเพื่อนำเงินเข้ารัฐ หรือเข้ากรุงเทพมหานคร ตามระเบียบว่าด้วยพัสดุ หรือตาม พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 แต่อย่างใด การกระทำดังกล่าวของผอ.เขตจตุจักรจึงอาจเข้าข่าย “การทุจริตต่อหน้าที่” ตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 สมาคมฯจึงได้มาร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อไต่สวนและเอาผิดตามที่กฎหมายบัญญัติต่อไป 


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :