นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พยากรณ์ผลผลิตปาล์มน้ำมันปี 2561 อยู่ที่จำนวน 15.18 ล้านตัน ซึ่งสูงกว่าปี 2560 ร้อยละ 6.60 ในขณะที่ความต้องการใช้ทรงตัว ประกอบกับสต็อกปลายปี 2560 อยู่ในระดับสูง

ดังนั้น ในภาพรวมของทั้งปี 2561 จะมีปริมาณน้ำมันปาล์มส่วนเกิน

ปัจจุบัน (22 มี.ค.61) ราคาผลปาล์ม (ในแหล่งผลิตสำคัญ : กระบี่ สุราษฎร์ธานี ชุมพร) ลดลงเหลือ กก.ละ 3.30 บาท ส่วนราคาน้ำมันปาล์มดิบ กก.ละ 19.25 บาท ในขณะที่ราคาตลาดโลก (มาเลเซีย) ก็ลดลงเช่นกัน ปัจจุบัน (20 มี.ค.61) เหลือ กก.ละ 19.50 บาท

คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) จึงได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาประเด็นปัญหาราคาผลปาล์มน้ำมันตกต่ำ โดยมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์หารือผู้ประกอบการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการหารือเมื่อวันที่ 21 มี.ค.61 เห็นควรประกาศราคารับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ โดยกำหนดให้โรงงานกลั่นน้ำมันปาล์ม ผู้ผลิตไบโอดีเซล (บี100) ผู้ประกอบการซื้อหรือขายน้ำมันปาล์ม (Trader หรือ Broker) และผู้ซื้อน้ำมันปาล์มดิบทั่วไปรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบที่ส่งมอบ ณ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในราคาไม่ต่ำกว่า กก.ละ 19.00 บาท โดยจะพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของราคา อย่างน้อยทุก 2 สัปดาห์ และโรงงานสกัดต้องรับซื้อผลปาล์มน้ำมันในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม 

นอกจากนี้ ยังมีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ในกรณีที่พบว่าผู้ประกอบการดังกล่าวรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบต่ำกว่าราคาที่กำหนดข้างต้น อาจเข้าข่ายกระทำความผิดตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติ ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับในกรณีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มในบางพื้นที่หยุดรับซื้อผลผลิต และปิดซ่อมบำรุงเครื่องจักรพร้อมกัน กรมการค้าภายในจะประสานผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ที่มีโรงงานสกัด ให้บริหารจัดการไม่ให้โรงงานสกัดหยุดหรือปิดรับซื้อพร้อมๆ กัน

อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ในระหว่างการประกาศราคารับซื้อน้ำมันปาล์มดิบดังกล่าว หากพบว่ามีการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบในราคาต่ำกว่าราคาที่ประกาศหรือรับซื้อผลปาล์ม ในราคาที่ไม่สอดคล้องกับราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือสำนักงานคณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โดยกระทรวงพาณิชย์จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ หากพบการกระผิดจะดำเนินการตามกฎหมายทันที