“เป็นผู้หญิงมันเหนื่อย” วลีนี้เราได้ยินบ่อยๆ อาจจะเพราะความซับซ้อนหลายอย่างเชิงสังคมกดทับให้เราอยู่ในสภาวะเช่นนั้น แต่หากเรากำลังรู้สึกแบบนั้นอยู่ ขอให้อ่านเรื่องราวของบรรดาสาวๆ ชาวญี่ปุ่นในยุคมิลเลนเนียมเหล่านี้ดู แล้วจะรู้ว่าเรา (อาจ) ไม่เหนื่อยอย่างที่คิด
เรามักได้ยินเรื่องลักษณะเฉพาะตัวของสังคมญี่ปุ่น โดยเฉพาะวัฒนธรรมการทำงานหนัก ‘คาโรชิ’ และการทุ่มเทให้องค์กรอย่างสุดตัว ซึ่งมีงานวิจัยจากโยเมย์ชูระบุว่า วัฒนธรรมดังกล่าวส่งผลให้ผู้หญิงชาวญี่ปุ่นอยากออกเดต 'น้อยลง'
วิจัยดังกล่าว บอกว่าสาวๆ ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ในวัยที่ควรออกเดต ระบุว่าพวกเธอไม่รู้สึกรีแลกซ์พอที่จะมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับใคร โดยเฉพาะการออกเดตกับคนแปลกหน้า ลำพังการทำงานหนักในสังคมออฟฟิศที่มีแต่พนักงานชายก็ทำให้เครียดมากพออยู่แล้ว
1 ใน 4 ของผู้หญิงที่ถูกสำรวจ บอกด้วยว่า พวกเธอเคยเหนื่อยจนเผลอหลับระหว่างการออกเดตด้วยซ้ำ ขณะที่ "เลิฟลี มีเดีย" เว็บไซต์หาคู่ระบุว่า มีผู้หญิงจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่คิดว่าการออกเดตเพื่อศึกษาใครสักคนแบบไม่มีจุดหมายปลายทางเป็นเรื่อง 'เสียเวลา' เอาเวลามานอนดูซีรีย์เสียดีกว่า เพราะพวกเธอกังวลว่า ยิ่งอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบดังกล่าวมากเท่าไหร่ นอกจากจะเสียเวลาแบบไม่ได้อะไรแล้ว ยิ่งทำให้พวกเธอเสี่ยง "ตั้งครรภ์แบบไม่ได้ตั้งใจ" มากขึ้นเท่านั้นด้วย ทำให้สาวญี่ปุ่นหลายๆ คนเริ่มหันมาใช้บริการหาคู่อย่างจริงจังเพื่อวางแผนครอบครัวในอนาคตเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ขณะที่สำนักวิจัยประชากรและความมั่นคงแห่งชาติญี่ปุ่น ระบุตัวเลขที่มีประเด็นสอดคล้องกันว่า ในหลายขวบปีให้หลัง ผู้หญิงญี่ปุ่น��ยากแต่งงานเร็วขึ้นในช่วงอายุ 20 เพื่อหลีกหนีจากความกดดันด้านการทำงาน
ในช่วงทศวรรษ 1980 ซึ่งเป็นช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่ของญี่ปุ่น จำนวนผู้หญิงที่ไม่ได้แต่งงานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตามสภาพเศรษฐกิจ แต่การสำรวจล่าสุดในปี 2015 ระบุว่าเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ของสาวๆ อายุ 18-34 ปี อยากแต่งงานไวขึ้น เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์จากเมื่อราว 3 ทศวรรษก่อน
ที่เป็นแบบนั้นเพราะว่าผู้หญิงยุคใหม่อยากแต่งงานเพื่อลดความตึงเครียดจากสังคมการทำงาน แตกต่างจากในยุค 1980 ที่พวกเธอถูกสังคมกดดันให้เลือกเพียงอย่างเดียว : งานหรือแต่งงาน
"ปัจจุบันรัฐญี่ปุ่นมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างให้ผู้หญิงกลับมาทำงานได้หลังจากแต่งงานหรือให้กำเนิดบุตร พวกเธอสูญเสียโอกาสน้อยลง" เรียว โออิซูมิ นักวิจัยจากสำนักวิจัยประชากรและความมั่นคงแห่งชาติ ญี่ปุ่น กล่าว
แต่นั่นเป็นทัศนคติที่สวนทางกับผู้ชายญี่ปุ่นส่วนมาก เพราะว่าในวิจัยสำรวจจากโยเมย์ชูบอกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชายไม่อยากจะแต่งงาน แต่ 80 เปอร์เซ็นต์บอกว่าอยากจะมีแฟน เพราะมองว่าการแต่งงานเป็นเรื่องซับซ้อนและเป็นภาระที่พวกเขายังไม่พร้อมรับมือในฐานะผู้นำครอบครัว ซึ่งต้องใช้ความรับผิดชอบและความมั่นคงด้านหน้าที่การงานมหาศาล
ซึ่งความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ถือเป็นระเบิดทำลายเศรษฐกิจลูกใหญ่ในอนาคตของประเทศแห่งดวงอาทิตย์เลยทีเดียว ในสำนักวิจัยประชากรและความมั่นคงแห่งชาติ ญี่ปุ่น คาดการณ์ว่า ในปี 2040 กว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของครัวเรือน จะเป็นคนโสด
ไม่ดีแน่ แม้จะเป็นปัญหาจากทั้ง 2 ฝ่าย แต่มีการเสนอจากสาธารณชนว่า ทางแก้ไขที่ตรงจุดและรวดเร็ว คือการเปลี่ยนทัศนคติของสาวๆ เกี่ยวกับการทำงาน โดยเป็นปัญหาที่ต้องแก้ในเชิงนโยบาย คือ ลดจำนวนงานให้น้อยลง การันตีว่าพวกเธอจะมีเวลาสามารถทำหน้าที่แม่ได้ และการันตีว่าพวกเธอสามารถลาคลอดได้
นั่นน่าจะช่วยพวกเธอคิดถึงเรื่องการออกเดทได้มากขึ้นไม่มากก็น้อย