คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ระบุถึงความชัดเจนของพรรคเพื่อไทยในการเสนอแคนดิเดตนายกฯ เรารวมกัน 7 พรรค 246 เสียงจะต้องหารือก่อนใน 7 พรรค โดยหลักการจะโหวตแคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียวกันใน 7 พรรค ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องก่อร่างสร้างประชาธิปไตยก่อน ไม่ใช่เป็นแสวงหาอำนาจ และยังต้องเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนก่อน
เมื่อเลือกตั้งทำให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยเจออภินิหารไม่สามารถมีเสียงข้าม 250 เสียงได้ ดังนั้น ตนได้พูดไปแล้วจะไม่รับตำแหน่งใดๆ และขอเชิญชวนทุกพรรคมาร่วมต่อต้านการสืบทอดอำนาจและพรรคที่จะไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทยนั้น ทางพรรคเพื่อไทยก็ประกาศแล้วจะไม่รับตำแหน่งใดๆเลยขอให้มาร่วมยุติสืบทอดอำนาจ สร้างประชาธิปไตย
“ดิฉันเคยพูดมาแล้วในฐานะนักการเมืองเรื่องคำมั่นสัญญาเป็นเรื่องสำคัญ ดิฉันจะไม่เสียสัจจะที่เคยพูดไปแล้ว แม้ตอนนั้นจะเชิญชวนทุกพรรคให้มาร่วมกับพรรคเพื่อไทยแต่เขาก็ตั้งเงื่อนไข ดิฉันถือคำพูดสำคัญสัจจะที่ให้ไว้คงไม่รับตำแหน่งใดๆได้ แต่อยากให้ฝั่งประชาธิปไตยเดินหน้ายุติการสืบทอดอำนาจให้ได้” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ ยืนยันว่า ยังพูดไม่ได้ว่าล่าสุดมีการเสนอชื่อนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นผู้เสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมรัฐสภาเพราะจะเข้าใจผิดใน7 พรรค ดังนั้นต้องหารือกันใน7 พรรคก่อนถึงวันโหวตนายกฯ ตนจะพูดก่อนไม่ได้แต่จะพูดในนามส่วนตัวเท่านั้น และ 7 พรรคการเมืองก็จะไม่รอพรรคการเมืองใดแล้วแต่ต้องดูเหตุการณ์ก่อนแล้วถึงจะประชุมกัน 7 พรรคเพื่อดูว่าจะเสนอใครเป็นนายกฯ ในทิศทางเดียวกัน ซึ่งขณะนี้เหลือแคนดิเดตนายกฯ 4คน ใน7พรรคตอนนี้เหลือ3 คนไม่นับตัวเอง เพราะตนเป็นนักรบตนไม่คืนคำ คือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทยและนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคอนาคตใหม่ตามกฎหมาย
“ดิฉันเป็นแม่ทัพเป็นนักรบในวันที่ยากได้การมีส่วนร่วมของคนอื่นพรรคอื่นเพราะเสียงเราไม่ข้าม 250 เสียงแต่วันนี้เป็รเรื่องต่อรองกระทรวงไม่มีใครพูดถึงคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ ดิฉันไปตอบแทนพรรคการเมืองอื่นไม่ได้เพราะวันนี้ข่าวต่อรองกระทรวง ในส่วนพรรคประชาธิปไตยจะจับมือเดินหน้าไม่รอการต่อรองกระทรวงอะไร เพราะตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อน”