ไม่พบผลการค้นหา
'ชัยธวัช' เผย พรรคร่วมฝ่ายค้านตั้งคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย เตรียมยื่นเรื่อง 8 ปีนายกฯ ต่อศาล รธน. ชง กกต. ตีกลับ ปม กฎหมายลูก รับเสียใจ 'พ.ร.บ.ฉุกเฉินฯ' ถูกตีตกกลางสภาฯ หวังดันต่อสมัยหน้า

วันที่ 5 ส.ค. 2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หลังจากการยื่นหลักฐานของพรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลถึงกรณีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบวาระ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนแล้วว่า บทเฉพาะกาลที่ระบุให้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญให้ถือเป็น ครม. ตามรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ด้วย 

ประการที่สองคือ ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มักจะมีการยกเว้นคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม หรือเหตุในการพ้นจากตำแหน่งของคณะรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แต่เรื่องวาระ 8 ปีนั้น ไม่ได้มีการกำหนดไว้ ดังนั้นตัวบทบัญญัติไม่สามารถตีความเป็นอย่างอื่นได้เลย และตนเชื่อว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อการบริหารราชการแผ่นดิน พล.อ.ประยุทธ์ ควรพิจารณาตัวเองก่อนวันที่ 23 ส.ค. 2565 และอย่าใช้รัฐธรรมนูญที่ตัวเองทำมากับมือเฉพาะในส่วนที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง นั่นไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง 

ชัยธวัช ระบุว่า ขณะนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านได้มีการตั้งคณะทำงานฝ่ายกฎหมายร่วมกันโดยเฉพาะ เพื่อเตรียมยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการเตรียมคำร้อง และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งในการพักการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ไว้ชั่วคราว และมีคำวินิจฉัยเห็นว่าต้องให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีที่รัฐสภาจะมีการประชุมเพื่อหาข้อสรุป พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ยังคงค้างคาในวันที่ 10 ส.ค. นี้ ชัยธวัช กล่าวว่า สังคมกำลังมองการทำงานของสภาฯ ว่าสามารถทำงานตามประชาชนคาดหวังได้หรือไม่ เพราะยอมรับว่า ตอนนี้ประชาชนมองรัฐสภาด้วยความเสื่อมศรัทธามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะกระบวนการนิติบัญญัติไม่ได้เป็นไปเพื่อส่วนรวม แต่เป็นไปด้วยผู้มีอำนาจ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สมาชิกควรทำงานตามที่ประชาชนคาดหวัง 

ชัยธวัช กล่าวอีกว่า ในส่วนของสูตรคำนวณที่อาจกลับมาใช้สูตรหาร 100 ด้วยร่างกฎหมายที่ยื่นเข้ามาในวาระแรกนั้น ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลเห็นด้วยตามหลักการแบบคู่ขนาน หาร 100 ปตาอย่างไรก็ตามมาถึงวันนี้คิดว่า การหารแบบ 500 เดินไปได้ยาก และขัดต่อรัฐธรรมนูญ และขัดต่อหลักการของการอนุมัติวาระแรกของกฎหมายลูก ตนคิดว่า วิธีที่ดีที่สุดคือ ส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตีกลับ ซึ่งเชื่อว่า กกต. เป็นองค์กรที่มีส่วนในการทำกฎหมายลูกมาให้รัฐบาลเอง และจะทำให้กระบวนการนิติบัญญัติยังเป็นที่ยอมรับ และคงความเชื่อมั่นไว้ 

เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ร.บ.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ ที่พรรคก้าวไกลเป็นผู้สนอถูกคว่ำในสภาฯ ชัยธวัช ให้ความเห็นว่า น่าเสียใจ และเสียดาย ที่กฎหมายฉบับนี้ต้องการออกมาเพื่อแก้ไขปัญหา การบังคับใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในตลอดเวลาที่ผ่านมา ซึ่งมีส่วนในการละเมิดสิทธิมนุษยชน และทำให้กลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง โดยไม่สามารถตรวจสอบได้ และเป็นอีกครั้งที่ สภาฯ ใช้เสียงข้างมากในการคว่ำ โดยเรื่องนี้ไม่ได้เป็นผลประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นของส่วนรวม และหวังว่ากฎหมายที่มีความก้าวหน้า และถูกต้องในลักษณะแบบนี้ จะสามารถผลักดันให้เป็นจริงในสภาสมัยหน้า