ไม่พบผลการค้นหา
'ชัยธวัช' มอง 'ทักษิณ' กลับบ้าน ไม่กระทบจัดตั้งรัฐบาล ยึดมติ 8 พรรคร่วมรัฐบาลเป็นหลัก ปัดแกนนำ 'ก้าวไกล' บินหาดีลลับฮ่องกง

วันที่ 26 ก.ค. ที่พรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ แพทองธาร ชินวัตร หนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับไทยในวันที่ 10 ส.ค.นี้ มองว่าจะสามารถพิสูจน์กระบวนการยุติธรรม หรืออะไรในตัวของทักษิณได้บ้าง 

ชัยธวัช กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดว่าจะมีกระบวนการอย่างไร แต่ก็คงไม่เกี่ยวกับพรรคก้าวไกล และก็คงไม่เกี่ยวกับกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล ทักษิณ ก็ยืนยันมาตลอดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว โดยหลักทั่วไปแล้วประชาชนทุกคนมีสิทธิที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พร้อมมองว่าการกลับมาของ ทักษิณ ช่วงนี้ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าจะมีแกนนำพรรคก้าวไกล เดินทางไปพบ ทักษิณ ที่ฮ่องกง จะมีการต่อรองเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ ชัยธวัช กล่าวว่า ไม่น่าจะใช่ การเจรจาต้องรอการประชุมของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งทางพรรคเพื่อไทย ก็ได้รับภารกิจอยู่แล้วว่า เมื่อไปทำงานและได้ความคืบหน้าอย่างไร และมีข้อเสนอใดบ้างที่เป็นรูปธรรม ซึ่งคงต้องรอการนัดประชุมอีกครั้งจากทางพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าพรรคก้าวไกล จะมีการพูดคุยกับ ทักษิณ หรือมีความจำเป็นที่จะต้องพูดคุยหรือไม่ ชัยธวัช กล่าวว่า ตนคิดว่าขณะนี้ต้องใช้กลไกในการประชุมของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล และการประชุมร่วมกันของพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก 

เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ว่า ทักษิณ จะกลับมาภายหลังจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น ชัยธวัช กล่าวว่า การกลับบ้านของ ทักษิณ ตนไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีจังหวะเวลาอย่างไร 

เมื่อถามถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่า นโยบายแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นการล้มล้างการปกครอง ที่จะต้องมีการชี้แจงภายใน 15 วันซึ่งครบในวันนี้ มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ชัยธวัชกล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายกำลังดำเนินการอยู่ และได้ยื่นขอขยายเวลาในการชี้แจงไปแล้ว ซึ่งคงต้องรอว่าศาลจะอนุญาตให้ขยายเวลาออกไปอีกกี่วัน 

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าในกรณีดังกล่าวจะนำไปสู่การยุบพรรค ชัยธวัช กล่าวว่า คำร้องให้ยุติการกระทำที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นการล้มล้างการปกครอง ยังไม่ไปไกลถึงเรื่องนั้น แต่อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลจะต้องไม่ประมาท ซึ่งคงต้องประเมินถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดและป้องกันไว้ทุกทาง 

เมื่อถามถึงกรณีที่ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ออกมาระบุว่า อาจจะสามารถหารือในที่ประชุมรัฐสภาเพื่อทบทวนมติการเสนอชื่อเลือกนายกฯ ซ้ำได้ แต่ให้ยึดตามศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งผลวินิจฉัยของศาลมีผลผูกพันทุกองค์กร พรรคก้าวไกลจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ชัยธวัช กล่าวว่า เราไม่เห็นด้วยหากศาลรัฐธรรมนูญจะมีอำนาจเหนือรัฐสภา ยกเว้นในส่วนที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจน ว่าอำนาจของศาลฯ อยู่ตรงไหน 

"จุดยืนของเราคือการนำเสนอทางออกให้กับสภา ว่าเมื่อมีความเห็นของสังคมว่ามติของรัฐสภาขัดต่อรัฐธรรมนูญ น่าจะใช้กลไกของรัฐสภาในการแก้ปัญหาของตนเองได้ ซึ่งควรใช้อำนาจของสภาเองในการแก้ไขปัญหานี้ ไม่เช่นนั้นเราที่ถือว่าเป็นตัวแทนของอำนาจอธิปไตย จะทำอะไรได้หรือไม่ได้ต้องไปถามศาลรัฐธรรมนูญทุกอย่าง มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น ซึ่งข้อเสนอในเรื่องนี้คงต้องเอาไปหารือกัน"

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลจะมีโอกาสพลิกในการกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ชัยธวัช กล่าวว่า คิดว่าทุกอย่างเป็นไปได้หมด แต่สิ่งที่เราอยากจะผลักดันตอนนี้ คือควรจะมีการปลดล็อกมติซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ ที่ทำให้การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ซ้ำไม่ได้ หรืออาจจะทำได้แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก ในส่วนนี้จะเป็นเงื่อนไขที่บีบในการจัดตั้งรัฐบาลมีปัญหาได้ของ 8 พรรคร่วม ไม่ว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคใดก็ตาม เรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องของแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกลพรรคเดียว 

ส่วนกระแสข่าวที่จะมีการฉีกบันทึกความเข้าใจร่วมกัน หรือ MOU ของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล พรรคก้าวไกลยังคงย้ำจุดยืนเดิมหรือไม่ ชัยธวัช กล่าวว่า ต้องรอในที่ประชุม สำหรับพรรคก้าวไกล จุดยืนเราชัดเจน ว่าพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปตามผลการเลือกตั้ง เมื่อถามย้ำว่า ยังมั่นใจใช่หรือไม่ว่าจะไม่ไปถึงขั้นฉีก MOU ชัยธวัชกล่าวว่า อย่าเพิ่งไปประเมิน แน่นอนการเมืองทุกอย่างเป็นไปได้ แต่ขอให้รอการประชุมดีกว่า