วันที่ 27 พ.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกวาดล้างเครือข่ายนำเข้า และจำหน่ายชิ้นส่วนเนื้อสุกรอย่างผิดกฎหมายว่า ภายหลังนายกรัฐมนตรี ขีดเส้นใต้ 1 สัปดาห์ในการทำดำเนินการ ดีเอสไอใช้เวลา 5 เดือนเศษ ในการส่งสำนวนคดีให้แก่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมถึงมีปฏิบัติการต่อเนื่องในการเข้าจับกลุ่มเครือข่ายขบวนการดังกล่าว
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า พนักงานสอบสวนใช้ความละเอียดรอบคอบในการดำเนินการอย่างมาก เนื่องจากขบวนการดังกล่าวมีพยานหลักฐาน เอกสาร และผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้ความละเอียดในการตรวจสอบให้ครบองค์ประกอบ และนำไปสู่การเอาผิดผู้ต้องหาได้จริงๆ เพื่อให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยอีกว่า หลังจากนี้จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอย่างแน่นอน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีผู้ติดต่อเข้าขอมอบตัวมาจำนวนหนึ่ง และบางรายทางดีเอสไอต้องดำเนินการเข้าจับกุม หรือตรวจค้นยังจุดต่างๆ เพื่อสอบสวนพยานหลักฐาน โดยถือว่า การทำงานของดีเอสไอในครั้งนี้ มีความพอใจเป็นอย่างมาก
พ.ต.ต.สุริยา ยืนยันว่า กลุ่มนายทุนที่ทางดีเอสไอสืบค้น และเร่งกวาดล้างนั้น มีบุคคลระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่จะส่งสำนวนคดีจำนวน 10 รายหรือ 100 รายนั้นยังเร็วไปที่จะกำหนดตัวเลขที่แน่ชัด จึงต้องมีการแบ่งหมวดหมู่ และดำเนินการกับตัวการหลักที่มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรม ซึ่งส่งผลกระทบความมั่นคงทางด้านอาหาร และเกษตรกร