ไม่พบผลการค้นหา
‘อธิบดี DSI’ เผยคืบหน้าคดีหมูเถื่อนยันไม่คว้าน้ำเหลว หลังได้เอกสารหลักฐานสำคัญจากการตรวจค้นห้องเย็นสมุทรสาคร พร้อมสนองข้อสั่งการ ‘นายกฯ’ ขีดเส้นตายล่ารายใหญ่ใน 5 วัน เผยวันนี้เตรียมส่งสำนวน ให้ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด พบ ขรก.กว่า 10 ราย เอี่ยว

วันที่ 22 พ.ย. เวลา 10:00 น. ที่อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปราบปรามขบวนการค้าหมูเถื่อนว่า วันนี้ จะมีการประชุมคณะพนักงานสอบสวนเพื่อดูเอกสารหลักฐานและรายละเอียดที่ได้หลังการตรวจค้น บริษัท รักชัยห้องเย็น จำกัด ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร วานนี้ (21 พ.ย.) ซึ่งก็เห็นความเชื่อมโยงไปยังกลุ่มบุคคลที่มีความต้องการหมูเถื่อนเพื่อนำไปจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไปและกระจายไปทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม คณะพนักงานสอบสวนนำกำลังเข้าตรวจค้นห้องเย็น บริษัท รักชัยห้องเย็น จำกัด แต่ไม่พบหมูเถื่อนของกลางนั้น ขอชี้แจงว่า ไม่ได้ถือเป็นการคว้าน้ำเหลว แต่เป็นการเข้าไปตรวจค้นจับกุมตามคำให้การของผู้ต้องหาที่เราจับกุมได้ก่อนหน้านี้ และรวมถึงการสืบสวนสอบสวนของ DSI เอง ซึ่งมีข้อมูลว่าห้องเย็นที่รับฝากแช่ดังกล่าว ได้รับการสำแดงข้อมูลใบรับฝากหัวปลาแซลมอนของกลุ่มนายทุนผู้ต้องหา หรือสองพ่อลูกที่ DSI เพิ่งจับกุมตัวได้ (วิรัช และ ธนกฤต ภูริฉัตร) และนำไปยื่นไว้ที่กรมประมง จึงทำการสืบสวนสอบสวนจากเอกสารดังกล่าว 

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวต่อไปว่า เราไม่ได้คาดหวังว่าการเข้าตรวจค้นจะต้องพบเนื้อหมูเถื่อน เพราะกระบวนการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนมีมาตั้งแต่ปี 2564 ถึง 2565 ดังนั้น จึงมีการกระจายไปยังศูนย์จำหน่ายสินค้าแช่แข็งต่างๆหมดแล้ว แต่เราไปเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานที่ทางบริษัทเก็บไว้ และพิสูจน์ให้ได้ว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้เก็บของกลางเนื้อหมูแช่แข็งไว้ที่ใด และได้ถูกกระจายไปยังพื้นที่ใดบ้าง รวมถึงติดตามเส้นทางการเงินและเอกสารต่างๆ ซึ่งจากข้อมูลและเอกสารที่ได้เมื่อวานนี้ ทำให้ DSI สามารถนำไปขยายผลและแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวได้มากยิ่งขึ้น จึงไม่ถือว่าเป็นการคว้าน้ำเหลว อีกทั้งในการเข้าตรวจค้นปฏิบัติการหลายครั้งก็สามารถตรวจยึดเนื้อหมูเถื่อนไปทำการตรวจสอบได้

ส่วนกรณีที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เร่งกำชับให้ DSI ดำเนินการให้รวดเร็วภายใน 5 วัน เพื่อติดตามจับกุมตัวการรายใหญ่นั้น พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า เมื่อได้รับคำสั่งตามข้อสั่งการดังกล่าวก็ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด แต่เนื่องจากมีกลุ่มผู้ต้องหาจำนวนมากและจำนวนหลายกลุ่มที่ต้องดำเนินการ ยืนยันว่า DSI ไม่ได้นิ่งนอนใจในการสืบสวนสอบสวนเรื่องดังกล่าว เราเน้นทำตามระเบียบและข้อกฎหมายตามขอบเขตที่เรามีอำนาจดำเนินการได้ 

ส่วนการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวนั้น ในวันนี้ DSI จะมีการประชุมสรุปสำนวนคดีที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง ก่อนนำส่งสำนวนให้ทาง ป.ป.ช. พิจารณาชี้มูลความผิด ซึ่งจำนวนผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐมีมากกว่า 10 ราย แต่ยังไม่ขอระบุว่าเป็นบุคคลใดบ้าง 

เมื่อถามว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐและผู้บริหารมีบุคคลที่เป็นข้าราชการระดับรัฐมนตรี หรืออธิบดีกรมเลยหรือไม่ พ.ต.ต.สุริยา ระบุว่า จากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของเรา มีพยานหลักฐานที่สามารถสืบสวนสอบสวนได้ ที่ชี้ให้เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐไปเชื่อมโยงถึงขบวนการนี้ทั้งหมด