ในการเข้าร่วมการฉลองครบรอบ 25 ปี การคืนเกาะฮ่องกงจากสหราชอาณาจักรแก่จีน สียังได้เข้าร่วมพิธีการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของ จอห์น ลี ผู้บริหารฮ่องกงคนใหม่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน จากผลงานการปราบปรามผู้ชุมนุมเรียงร้องประชาธิปไตย ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา ทั้งนี้ ลีเองถูกสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตร จากการที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนโดยตรง
สีเดินทางเยือนฮ่องกงล่าสุดเมื่อปี 2560 เมื่อครั้งที่ แคร์รี หล่ำ เข้าสาบานตนเป็นผู้บริหารฮ่องกงหญิงคนแรกของเกาะ ทั้งนี้ แนวนโยบายของหล่ำมีความใกล้ชิดกับทางรัฐบาลจีน ทั้งการปราบปรามผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ตลอดจนการดำเนินนโยบายโควิดเป็นศูนย์ตามจีนแผ่นดินใหญ่
ในการฉลองครบรอบ 25 ปี การคืนเกาะฮ่องกงจากสหราชอาณาจักรแก่จีน ฮ่องกงได้จัดพิธีเชิญธงชาติจีนและฮ่องกงขึ้นยอดเสา บริเวณท่าเรือวิกตอเรียของเกาะ พร้อมกันกับการบินของเครื่องบินกองทัพอากาศ และเรือของกองทัพเรือที่คอยฉีดน้ำสร้างสีสันในงานฉลอง อย่างไรก็ดี สีไม่ได้เข้าร่วมงานเชิญธงขึ้นยอดเสา จากความกังวลต่อการระบาดของโควิด-19
“หลังจากพายุ ฮ่องกงได้เกิดขึ้นใหม่อีกครั้งด้วยไฟ และฟื้นคืนชีวิตขึ้นใหม่เต็มเปี่ยมด้วยพลัง” สีกล่าวเมื่อเดินทางมาถึงฮ่องกงเมื่อวานนี้ ผ่านรถไฟฟ้าความเร็วสูงจากเมืองเซินจิ้นก่อนวิ่งข้ามมายังเกาะฮ่องกง โดยในวันนี้เมื่อ 25 ปีก่อน สหราชอาณาจักรได้ส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนให้แก่รัฐบาลจีนคอมมิวนิสต์ หลังจากการทำสัญญาเช่าเกาะยาวนานกว่า 99 ปี จนทำให้ฮ่องกงที่เคยเป็นประชาธิปไตยภายใต้สหราชอาณาจักร ย้อนกลับเข้าสู่การเป็น “หนึ่งประเทศสองระบบ” ตามแนวทางการปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอีกครั้ง
ตลอดระยะเวลาสองทศวรรษที่ผ่านมา ประชาชนชาวฮ่องกงมักออกมารวมตัวกันหลายแสนคน เพื่อเฉลิมฉลองไปกับการได้รับเสรีภาพคืนจากสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ดี ไม่มีการรวมตัวกันอย่างหนาแน่นในปีนี้ เนื่องจากฮ่องกงสั่งห้ามการรวมตัวใดๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันมีรายงานผู้ติดเชื้อบนเกาะประมาณวันละ 1,000 คน รวมถึงการปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยตั้งแต่ช่วงปี 2562 ด้วยเช่นกัน
กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่บังคับใช้ในฮ่องกงมาตั้งแต่สองปีก่อน ส่งผลให้แกนนำผู้ประท้วงหลายสิบชีวิตถูกจับกุมคุมขังอยู่ในเรือนจำในขณะนี้ ทั้งนี้ กฎหมายฉบับดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน และกลายมาเป็นสัญลักษณ์ในการเข้าแทรกแซง และครอบงำกิจการของฮ่องกงโดยรัฐบาลจีนอย่างเปิดเผย สร้างคำถามว่าฮ่องกงภายใต้การปกครองของจีน อาจเลวร้ายไม่ต่างหรือยิ่งไปกว่าฮ่องกงในยุคอาณานิคม
“เราได้สร้างคำสัญญาต่อดินแดนและประชาชนในนั้น และเรายังคงเจตนาในการรักษาคำพูดดังกล่าวต่อไป เราจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เพื่อให้จีนรักษาคำมั่นสัญญาดังกล่าวเอาไว้” บอริส จอห์นสัน กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (30 มิ.ย.) พร้อมแสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในฮ่องกง ภายใต้อำนาจของรัฐบาลจีน
นอกจากนี้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวถึง “การพังทลายของอำนาจในการปกครองตนเอง” ของฮ่องกง พร้อมย้ำว่าสหรัฐฯ จะ “ยืนหยัดเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับประชาชนในฮ่องกง และตอกย้ำถึงการเรียกร้องเสรีภาพตามคำสัญญาของพวกเขาว่าจะต้องได้กลับมาสู่สภาวะเดิม”
ในทางตรงกันข้าม สีกล่าวว่าการปกครองแบบหนึ่งประเทศสองระบบของฮ่องกงภายใต้จีนนั้น จะการันตี “เสถียรภาพและความมั่งคั่งของฮ่องกงในระยะยาว” อย่างไรก็ดี การเดินทางเยือนฮ่องกงของสีถูกควบคุมความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยสถานที่และถนนที่พลุกพล่านของฮ่องกงถูกสั่งปิดชั่วคราวเป็นเวลาสองวัน ขณะประธานาธิบดีจีนเข้ามาเหยียบผืนดินของฮ่องกง
สีย้ำว่า “ประชาธิปไตยที่แท้จริง” เกิดขึ้นในฮ่องกง เมื่อเกาะถูกส่งคืนจากสหราชอาณาจักรมาให้แก่จีน “หลังจากการกลับมารวมกันอีกครั้งกับมาติภูมิ ประชาชนของฮ่องกงกลายมาเป็นเจ้านายของเมืองตนเอง” สีกล่าว “ประชาธิปไตยฮ่องกงเริ่มขึ้นจากตรงนี้” พร้อมกันนี้ สีย้ำว่าจีนยืนยันจะทำทุกสิ่งทุกอย่าง “เพื่อประโยชน์ของชาวฮ่องกง”
ทั้งนี้ การนำเสนอข่าวถึงงานฉลองถูกทางการจีนและฮ่องกงสั่งจำกัดอย่างเข้มงวด ผู้สื่อข่าวอย่างน้อย 10 สำนักจากทั้งในฮ่องกงและต่างชาติถูกปฏิเสธใบขออนุญาตเข้ารายงานข่าว นอกจากนี้ กำหนดการเยือนฮ่องกงของสีถูกปิดจากสาธารณะ และสีอาจเดินทางกลับจีนในวันนี้ทันที หลังจากความกังวลด้านความปลอดภัยและสถานการณ์โควิด-19
ฮ่องกงพยายามรณรงค์คำขวัญในการเฉลิมฉลองโอกาส 25 ปี การคืนเกาะฮ่องกงจากสหราชอาณาจักรแก่จีน ด้วยสโลแกน “เสถียรภาพ มั่งคั่ง โอกาส” ซึ่งถูกแปะป้ายและขึ้นจอทั่วทั้งเกาะ ท่ามกลางการตั้งคำถามจากโลกตะวันตก ถึงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในฮ่องกงที่ตกต่ำลงเรื่อยๆ ภายใต้การแทรกแซงของจีน
ที่มา: