ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ผู้นำจีนกล่าวในการประชุมรำลึกครบรอบ 40 ปีของ "จดหมายถึงเพื่อนร่วมชาติชาวไต้หวัน" ที่เป็นสาส์นจากรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ถึงชาวไต้หวันว่า "ตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์และทางกฎหมาย ไต้หวันคือส่วนหนึ่งของประเทศจีน และดินแดนทั้งสองฝั่งช่องแคบไต้หวันเป็นของจีนเดียว ไม่ว่ากองกำลังใดก็ไม่อาจแยกไต้หวันและจีนได้"
"ที่ผ่านมาปัญหาความตึงเครียดระหว่างช่องแคบไต้หวันที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะชาติจีนมีความอ่อนแอและมีความสับสน แต่ปัญหาทั้งหมดสามารถยุติลงได้ด้วยการรวมชาติอีกครั้ง" ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงกล่าว
นอกจากนี้ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงยังกล่าวว่า "คนจีนจะต้องไม่สู้กันเอง แต่จีนก็ไม่อาจรับรองได้ว่าจะไม่มีการใช้กำลังในการรวมชาติ แต่การใช้กำลังทางทหารของจีนจะมุ่งเน้นไปยังผู้ที่ต้องการเอกราชแยกตัวออกจากจีนเท่านั้น"
นอกจากนี้ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงยังย้ำถึงฮ่องกงโมเดล 'หนึ่งประเทศ สองระบบ' ในการรวมไต้หวันให้กลับมาเป็นของจีน โดยนายสีจิ้นผิงกล่าวว่า แนวคิดหนึ่งประเทศ สองระบบถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อรองรับการมีตัวตนของไต้หวัน และเป็นการปกป้องผลประโยชน์ทั้งของจีนและของเพื่อนร่วมชาติอย่างไต้หวันภายใต้ความมั่นคงและอำนาจอธิปไตยของชาติ
ขณะที่นางไฉ่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน กล่าวว่า ไต้หวันไม่อาจจะยอมรับกับแนวคิด 'หนึ่งประเทศ สองระบบ' ของจีนได้ และเรียกร้องให้รัฐบาลจีนเข้าใจถึงความต้องการและความคิดเห็นของประชาชนไต้หวันด้วยเช่นกัน
ไต้หวันประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากจีนนับตั้งแต่สงครามกลางเมืองระหว่างพรรคอมมิวนิสต์และรัฐบาลก๊กหมินตั๋งจบลงเมื่อปี 1949 และในปี 1979 รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงได้หวัน เป็นที่รู้จักกันในนาม 'จดหมายถึงเพื่อนรวมชาติไต้หวัน' เพื่อเรียกร้องให้ยุติการสู่้รบทางการทหารในบริเวณช่องแคบจีน-ไต้หวันและเรียกร้องไต้หวันกลับมารวมไปหนึ่งเดียวกับจีนอีกครั้ง