ไม่พบผลการค้นหา
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ออกแถลงปฏิบัติการปราบปรามเนื้อหาไม่เหมาะสม จับผู้ต้องหาได้ 1 ราย จากการแชร์เนื้อหาไม่เหมาะสมผ่านเฟซบุ๊ก มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ออกแถลงการณ์ "ปฏิบัติการปราบปรามเนื้อหาไม่เหมาะสม" ด้วยปัจจุบันประชาชนสามารถเข้าถึงข่าวสารได้รวดเร็วผ่านสื่อออนไลน์ช่องทางต่างๆ มีทั้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และข้อมูลที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ สังคม ศีลธรรม วัฒนธรรมและประเพณี และมีความขัดแย้งต่อกฎหมายและกฎระเบียบของประเทศไทยในหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมายหมิ่นประมาท กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงได้มอบหมายให้ บก.ปอท. ร่วมกับสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการสืบสวนปราบปรามผู้ที่เผยแพร่เนื้อหาไม่เหมาะสมผู้ร่วมขบวนการบนสื่อออนไลน์และเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้อง

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ภายใต้การอำนวยการของ น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, พล.ต.ท.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบช.สทส., พ.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา รอง ผบช.สทส., พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผบก.ผอท., พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท., มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมดำเนินการ "ปฏิบัติการปราบปรามเนื้อหาไม่เหมาะสม" ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1520/2562 ลงวันที่ 7 ต.ค. 2562 ได้ที่ ซอยอารีสัมพันธ์ 3 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.

พฤติการณ์ในการคดี ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ไม่หวังดีได้ก่อกระแสข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์ (แฮชแท็ก) ที่ไม่เหมาะสม ทำให้ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้โพสต์ข้อความเนื้อหาไม่เหมาะสมผ่านเฟซบุ๊ก และสร้างความเกลียดชัง ซึ่งข้อความที่โพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นประมาณร้อยข้อความ และแชร์ข้อความประมาณ 50 ครั้ง จนทำให้พี่น้องประชาชนรู้สึกไม่ค่อยพอใจ ดังนั้น รมว.ดิจิทัลฯ จึงสั่งการให้ บก.ปอท. ดำเนินการสืบสวนจนแน่ชัด จนนำไปสู่การยื่นคำร้องขอหมายจับของศาลอาญาในข้อหาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา14(3) "นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรฯ" ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุด จำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การภาคเสธ

สำหรับผู้ใดเผยแพร่หรือส่งต่อ (แชร์) ข้อความดังกล่าวจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(5) อัตราโทษสูงสุด 5 ปี ปรับ 100,000 บาทเช่นกัน


"ประวิตร" ลั่นจับจริงไม่ได้ปราม ปอท.จับ "กาณฑ์" ผิด พ.ร.บ.คอมฯ

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง บก.ปอท. จับกุม นายกาณฑ์ พงษ์ประภาพันธ์ ในความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ว่า เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนอยู่ ยังไม่ได้รับรายงานในรายละเอียด ตนทราบเพียงว่ามีการจับกุม และเรื่องนี้ไม่ใช่การปรามแต่จับจริง พร้อมยอมรับว่ายังมีอีก 4-5 คนที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงดิจิทัลฯ ให้ข้อมูล จึงต้องสอบสวนก่อน

ส่วนจะโยงใยการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้ามีเรื่องมากมายก็ต้องดำเนินคดี ถ้าทำผิด โดยเฉพาะในการโจมตีสถาบัน ซึ่งเรื่องนี้ต้องใช้กฎหมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง