ไม่พบผลการค้นหา
คณะผู้บริหารพรรคเพื่อชาติ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง จังหวัดขอนแก่นต่อเนื่อง หวั่นบรรยากาศทางการเมืองขณะนี้จะนำไปสู่เหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ 35 พร้อมให้กำลังพรรคไทยรักษาชาติ หวัง รอดพ้นคดี เชื่อไม่เสียคะแนนฝั่งประชาธิปไตย ทุกอย่างมีทางออก

คณะผู้บริหารพรรคเพื่อชาติ พร้อมด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ ลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ช่วยผู้สมัครเขต 10 นายเดชคำรณ สิงคลีบุตร เบอร์ 24 หาเสียง เชิงรุกบุกเข้าหมู่บ้าน ตลาด และวัด หาเสียงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง 24 มีนาคมนี้ ท่ามกลางประชาชนต้อนรับอย่างเนืองแน่น ก่อนลงพื้นที่ จังหวัดสุรินทร์ 

นายจตุพร ให้สัมภาษณ์ว่า แต่ละครั้งที่ลงพื้นที่ภาคอีสานกระแสจากพี่น้องประชาชนให้การตอบรับดีมากเช้าวันนี้ลงพื้นที่เขต 10 นายเดชคำรณ ที่เป็น ส.จ.มาหลายสมัย และรับใช้พื้นที่นี้มายาวนานจึงเป็นที่รู้จักของพี่น้องประชาชนเพราะฉะนั้นเมื่อสถานะของพรรคอยู่ในระนาบเดียวกัน ว่าเป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตยการแข่งขันจึงเกิดขึ้น ตนจึงเชื่อว่าประชาชนจะสามารถตัดสินใจกันอย่างง่ายดาย 

ขณะที่วันนี้จะมีการลงมติของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ตามคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. หรือไม่ นายจตุพร ระบุว่า ต้องเคารพการตัดสินใจของศาลแต่ขณะนี้ยังไม่ทราบเพราะการพิจารณาจะเริ่มขึ้นในเวลา 15.00 น. ดังนั้นขณะนี้สิ่งที่ทำได้คือการให้กำลังใจพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งเป็นหมู่มิตรในฐานะพรรคฝั่งประชาธิปไตยซึ่งคาดหวังว่าจะรอดพ้นจากคดีนี้ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้

ทั้งนี้หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติจะทำให้เสียคะแนนฝั่งประชาธิปไตยหรือไม่นั้นนายจตุพร ระบุว่า บทเรียนของประเทศไทยประชาชนจะมีคำตอบให้เสมอไม่มีอะไรที่ไม่มีทางออก ตนเองก็ผ่านวิกฤติการเมืองมามากมายและก็เจอการตัดสินใจของประชาชนซึ่งบางครั้งนักการเมืองอาจจะไม่เข้าใจ แต่ประชาชนจะรู้ว่าในสถานการณ์เช่นนี้จะปฏิบัติตนอย่างไรจะตัดสินใจอย่างไร ให้เชื่อมั่นว่าประชาชนพร้อมจะมีคำตอบในทุกๆวิกฤตปัญหา

เมื่อถามถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เผยคลิปที่กล่าวถึงอดีตนายกรัฐมนตรี ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าไม่เคยมีมลทินเรื่องทุจริต พร้อมบอกว่าไม่เอาพรรคที่คอร์รัปชันมานำประเทศนั้นตนจึงอยากถามกลับว่า จริงหรือไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยทุจริต เวลาหาเสียงทุกคนก็ต้องพูดเอาความดีเข้าตัวเพราะต้องเร่งหาความนิยมซึ่งเป็นปกติทางการเมือง ตนก็ไม่เคยถือสา ดังนั้นให้เชื่อได้เลยว่าคนไทยรู้หมดว่าใครทำอะไร อย่างไร เพียงแต่ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ในระบบบัตรใบเดียวจะเป็นการตัดสินใจแบบเบ็ดเสร็จ ให้เชื่อเลยว่าประชาชนจำนวนหนึ่งตัดสินแล้วว่าจะเลือกพรรคใด

ส่วนกรณี อ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล นักวิชาการด้านนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้ความเห็นในการเสวนาเรื่อง “การเลือกตั้งแบบ 3 อิน 1 กับผลทางการเมืองและการใช้สิทธิ์ของประชาชน”โดยมองว่าจะเกิดการเมือง 3 ก๊ก นายจตุพร ระบุ อ.ปริญญา ได้มองไปยังปลายทาง เพียงแต่การนำเสนอเป็นมุมนักวิชาการ เราที่เคยผ่านความเลวร้ายในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ก็รู้ว่าบรรยากาศการเลือกตั้งขณะนี้เหมือนปี 2535 / 1 จึงเกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬนำไปสู่ปี 2535 / 2 

ทั้งนี้นายจตุพรกล่าวว่าไม่ต้องการให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็น 2562 / 1 เพราะช่องว่างกว่าจะถึงปี 2562 / 2 นั้น มีความตาย ความสูญเสียเกิดขึ้น จึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนว่าการสู้กับเผด็จ เพื่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นให้เข้าคูหาลงคะแนนจะหยุดได้ทุกอย่าง