ไม่พบผลการค้นหา
บางประเทศทำข้อตกลง 'ยกเลิกคำสั่งห้ามเดินทาง' ระหว่างกัน และอีกหลายประเทศเตรียมเปิดเส้นทางบิน ฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 แต่คาดว่าเงื่อนไขการเดินทางเข้าแต่ละประเทศจะเข้มงวดและแตกต่างกันไป

นิตยสาร Forbes รายงานอ้างอิงข้อมูลของ องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) บ่งชี้ว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวสร้างงานให้ร้อยละ 10 ของประชากรโลก แต่มาตรการล็อกดาวน์ ปิดเมือง ปิดพรมแดน และห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดช่วง 2 เดือนกว่าที่ผ่านมา ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลกสูญเสียรายได้ไปแล้วกว่า 4.5 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 14 ล้านล้านบาท 

ด้วยเหตุนี้ UNWTO จึงเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกพิจารณามาตรการช่วยเหลือเยียวยาอย่างครอบคลุมแก่บุคลากรในแวดวงธุรกิจท่องเที่ยว เพราะคาดว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกจะประสบภาวะถดถอยต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากธุรกิจท่องเที่ยวประสบภาวะถดถอยอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม หลายประเทศเริ่มพิจารณาผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ โดยสั่งเปิดโรงเรียน ห้างสรรพสินค้า สถานประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการบริการ รวมถึงอนุญาตให้สายการบินในประเทศกลับมาให้บริการได้บางส่วน เตรียมยกเลิกคำสั่งห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ โดยรัฐบาลบางแห่งใช้วิธีเจรจากรอบทวิภาคี อนุญาตให้พลเมืองของประเทศที่มีข้อตกลงร่วมกันสามารถเดินทางเข้าประเทศได้เป็นการเฉพาะ 

ส่วนอีกหลายประเทศใช้ข้อตกลงพหุภาคี เจรจากับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน หรือเป็นสมาชิกกลุ่มความร่วมมือระหว่างประเทศเดียวกัน แต่ก็มีการวางเงื่อนไขอย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมและป้องกันการกลับมาแพร่ระบาดครั้งใหม่ของโรคโควิด-19 ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าธุรกิจการท่องเที่ยวทั่วโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน

เกาหลีใต้ - AFP

จีน-เกาหลีใต้

ทั้งสองประเทศเคยอยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรคโควิด-19 มากที่สุดในโลก เพราะจีนเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดระยะแรก ส่วนเกาหลีใต้เคยเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากที่สุดในเอเชีย รองจากจีน แต่สถานการณ์คลี่คลายนับตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะสามารถควบคุมไม่ให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกินหลักร้อยคนได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งสองประเทศจึงเจรจาในกรอบทวิภาคี หาข้อตกลงร่วมให้พลเมืองแต่ละฝ่ายเดินทางไปประเทศปลายทางได้

The Japan Times รายงานว่า สายการบินโคเรียนแอร์ไลน์สของเกาหลีใต้ เตรียมตัวรื้อฟื้นเส้นทางบินจากสนามบินนานาชาติอินชอนในกรุงโซล เพื่อไปยังสนามบินในกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ เมืองชิงเต่า และเมืองเสิ่นหยางของจีนในเดือน มิ.ย. เช่นเดียวกับสายการบินจีนจะเดินทางจาก 4 สนามบินไปยังเกาหลีใต้ โดยขณะนี้บัตรโดยสารของเที่ยวบินจากเกาหลีใต้ไปจีนในเดือน มิ.ย. 'ขายหมดแล้ว'

เงื่อนไขสำคัญ คือ ผู้ประสงค์จะเดินทางไปยังประเทศคู่ภาคี ต้องเฝ้าระวังอาการตัวเอง 14 วันก่อนเดินทาง และต้องมีใบตรวจสุขภาพเพื่อยืนยันว่าปลอดเชื้อโควิด-19 ขณะอยู่บนเครื่องบินก็จะต้องเว้นระยะห่างจากผู้โดยสารคนอื่นๆ อย่างน้อย 1.5 เมตร และเมื่อไปถึงจุดหมายปลายทางจะต้องถูกกักตัวต่ออีก 2 วัน


นิวซีแลนด์-ออสเตรเลีย

จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ระบุว่า รัฐบาลของตนได้เจรจากับผู้นำออสเตรเลีย เพื่อสร้างเครือข่ายประเทศปลอดภัยจากโรคโควิด-19 และจะอนุญาตให้พลเมืองของแต่ละฝ่ายเดินทางโดยเครื่องบินเข้าประเทศได้โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขด้านการควบคุมและป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตาม นายกฯ นิวซีแลนด์ระบุว่า ยังมีเรื่องที่ต้องเจรจาอีกมาก กว่ามาตรการผ่อนปรนการเดินทางระหว่างทั้งสองประเทศจะเป็นรูปเป็นร่างและมีผลบังคับใช้

ขณะที่ 'เอ็มมา แม็คไบรด์' ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัยเจมส์คุกในออสเตรเลีย ระบุว่า การจะหาประเทศภาคีที่จะเข้าร่วมเครือข่ายประเทศปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ต้องอาศัยความไว้วางใจระหว่างกัน เพราะอาจไม่ใช่ทุกประเทศที่จะเปิดเผยข้อมูลเรื่องการติดเชื้อและการแพร่ระบาดอย่างตรงไปตรงมา


เอสโตเนีย-ลัตเวีย-ลิทัวเนีย

The Guardian รายงานว่า สามประเทศนี้ได้ทำข้อตกลงไตรภาคี อนุญาตให้พลเมืองของตัวเองเดินทางไปมาหาสู่กันได้ ทั้งทางบกและทางอากาศ โดยจะประกาศผ่อนผันข้อห้ามเดินทางข้ามพรมแดนอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเดือน มิ.ย.ที่จะถึงนี้

สื่อต่างประเทศมองว่านี่เป็นมาตรการปกป้องการท่องเที่ยว (travel bubble) ระหว่างประเทศ โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ที่จะเดินทางไปยังต่างประเทศที่อยู่ในกลุ่มไตรภาคี จะต้องรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจคัดกรองตามเวลาหรือเงื่อนไขอื่นๆ ที่กำหนด เพื่อติดตามว่านักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีอาการของโรค

AFP-จักรยาน หน้ากากอนามัย อังกฤษ.jpg

ประเทศสมาชิก 'สหภาพยุโรป' (EU)

อิตาลี เป็นประเทศแรกในกลุ่มอียูที่ประกาศว่าจะยกเลิกคำสั่งห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย. แม้ว่าอิตาลีจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หนักที่สุด เพราะสถิติผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคในภูมิภาคยุโรป

จูเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีอิตาลี ยอมรับว่าการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาได้ หลังจากที่เพิ่งพ้นภาวะวิกฤตโควิด-19 ได้ไม่นาน 'มีความเสี่ยง' ที่จะทำให้โรคกลับมาแพร่ระบาดรอบใหม่ แต่อิตาลีก็ไม่สามารถปิดประเทศต่อไปได้ และไม่อาจรอจนกว่าจะมีผู้ผลิตวัคซีนออกมาได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงนี้ผ่านการประเมินอย่างรอบด้านแล้ว พร้อมยืนยันว่าจะบังคับใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด

โปแลนด์ จะเริ่มเปิดให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 พ.ค.ที่จะถึงนี้ ทำให้พลเมืองของตัวเองเดินทางไปยังต่างประเทศได้ แต่การยกเลิกคำสั่งห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศจะมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 มิ.ย. เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศอีกครั้ง

ขณะนี้รัฐบาลโปแลนด์ผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ทยอยเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวในประเทศ เปิดสวนสาธารณะ ชายหาด พิพิธภัณฑ์ คาเฟ่ และแกลลอรี่ แต่มีข้อบังคับให้ผู้ใช้รถโดยสารสาธารณะทุกคนสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวหันไปใช้รถจักรยานในเขตเมืองแทน เพื่อลดความเสี่ยงของโรคติดต่อ

รถไฟ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ คมนาคม อียู EU transport train rail

ออสเตรีย เตรียมเปิดพรมแดนในวันที่ 15 มิ.ย. โดยอนุญาตให้พลเมืองจากประเทศสมาชิกอียูบางส่วนเดินทางเข้าประเทศผ่านเส้นทางเดินรถไฟจากเยอรมนี, สวิตเซอร์แลนด์, ลิกเทนสไตน์, สาธารณรัฐเช็ก, สโลวะเกีย และฮังการี แต่ยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศนอกกลุ่มอียู

เบลเยียม มีแผนจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 15 มิ.ย. และคาดว่ารัฐบาลเบลเยียมจะประกาศเงื่อนไขและกรอบเวลาที่ชัดเจนอีกครั้งช่วงปลายเดือน พ.ค.ที่จะถึง แต่รถไฟระหว่างประเทศ 'ยูโรสตาร์' ยังถูกจำกัดจำนวนเที่ยว ไม่ได้เปิดให้บริการเต็มรูปแบบเหมือนก่อนช่วงวิกฤตโควิด-19 และผู้โดยสารจะต้องสวมหน้ากากอนามัย ผู้ไม่ปฏิบัติตามกฎจะถูกปฏิเสธการให้บริการ 

กรีซ เตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ก.ค. แต่ถ้าเกิดการแพร่ระบาดครั้งใหม่ กำหนดเวลาดังกล่าวอาจถูกเลื่อนออกไปก่อน

ตลอดเดือน พ.ค.และ มิ.ย. รัฐบาลกรีซจะทยอยผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ อนุญาตให้ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สวนสนุก สวนสาธารณะ และสถานที่ออกกำลังกาย กลับมาเปิดบริการตามปกติ แต่ยังห้ามทำกิจกรรมที่มีผู้รวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เช่น คอนเสิร์ต การแข่งขันกีฬา และเทศกาลเฉลิมฉลองต่างๆ

ส่วนการเดินทางโดยรถแท็กซี่จะต้องจำกัดจำนวนผู้โดยสาร ไม่เกิน 2 คนต่อ 1 คัน และรถขนส่งสาธารณะมีกฎให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่าง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: