วันที่ 17 พ.ค. 2565 ที่สวยสันติพร อนุสรณ์สถานวีรชนพฤษภา 2535 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ช่วงสมัยเปิดประชุมสภา ว่าหลังจากเปิดสภาเมื่อ 23 พ.ค.ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะได้อภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างน้อยในช่วงเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็น 2 สัปดาห์ หลังจากบรรจุร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง โดยการอภิปรายครั้งนี้เป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย ดังนั้นฝ่ายค้านมีความเตรียมพร้อมเต็มเปี่ยม มั่นใจว่าจะทำให้ ส.ส. ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลยอมรับในเหตุผล ซึ่งหลายพรรคก็อยากทำเพื่อประเทศบ้านเมือง ดังนั้นต้องตัดสินใจมาลงคะแนนไม่ไว้วางใจ 

เมื่อถามว่าหมายถึงพรรคเล็กด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน ตอบว่าคาดหมายทุกพรรค ส่วนพรรคไหนจะเห็นอย่างไร จะมีสิ่งที่ปิดกั้นในการแสดงออกหรือไม่ก็แล้วแต่พรรค ส่วนตัวมองว่าพรรคเล็กมีความเป็นอิสระ เชื่อว่าจะได้เห็น ส.ส.ที่เห็นแก่บ้านเมือง

สำหรับกรณีที่ จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (นปช.) มองการที่ แพทองธาร ชินวัตร หรือ 'อุ๊งอิ๊งค์' ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ชวนคนเสื้อแดงกลับบ้าน ทั้งหมดจะมีผลต่อการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ทุกฝ่ายโดยเฉพาะคนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยต้องร่วมมือกัน เมื่อดูฐานของคนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่สมัยไทยรักไทยไปจนถึงพรรคพลังประชาชน เกิดขึ้นในปี 2551-2553 

“ตอนนั้นเราถูกกระทำ พวกเราถูกแยกสลาย หรือตั้งเงื่อนไขให้มีการแยกสลายไปแต่ละที่แต่ละแห่ง แต่ละคนก็กระจัดกระจายออกไป กลไกที่จะมารวมตัวกันมันก็เลยถูกปิดกั้น ดังนั้น ครอบครัวเพื่อไทยจึงเชิญ คนที่มีแนวคิด มีวิธีการที่ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริงมาร่วมแรงร่วมใจกัน อีกครั้งหนึ่ง”

เมื่อถามว่าการให้คนเสื้อแดงกลับมาอีกครั้งจะเป็นการสร้างความขัดแย้งหรือไม่ นพ.ชลน่าน ยืนยันว่าไม่ได้ใช้คำว่าเสื้อแดง ความเป็น นปช. ก็ยังติดตัวพวกเขา แต่เมื่อมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ก็ชวนมาสมัครสมาชิกพรรค มาเป็นสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย ส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นพ.ชลน่าน ระบุว่า ความเป็นครอบครัวเพื่อไทยนั้น จะมีการแสดงออกทางสิทธิเสรีภาพทางการเมืองมากกว่าความเป็น นปช. ที่มีข้อจำกัดมากกว่า 

สำหรับกรอบเวลาการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ระบุว่า หากเกิดการยุบสภาก็จะประกาศทั้ง 3 รายชื่อทันที ส่วนจะเป็น แพทองธาร เป็นหนึ่งในแคนดิเดตหรือไม่ ยังไม่สามารถบอกได้ ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน และมองว่าทั้ง 3 แคนดิเดตที่พรรคเพื่อไทยเสนอจะต้องทำให้ประชาชนว้าว ขณะนี้ทางพรรคกำลังดำเนินการต่อเนื่อง 

สำหรับเสียงตอบรับจากการลงพื้นที่ของ แพทองธาร จะสามารถการันตีได้หรือไม่ว่าเหมาะสำหรับนั่งเป็นแคนดิเดตนายกฯ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยังไม่สามารถด่วนสรุป ต้องให้เวลาพอสมควร แต่ที่ผ่านมากระแสตอบรับค่อนข้างดี 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการลงพื้นที่ของ แพทองธาร ถือเป็นการหยั่งเชิงวัดกระแสหรือไม่ นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการหยั่งเชิง แต่เป็นการประกาศตัวว่าจะมาทำงานในพรรคเพื่อไทย โดยเข้ามาแบบเปิดเผย โปร่งใส และตรวจสอบได้ในนามสมาชิกพรรค ทำงานดูแลนโยบาย ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญของพรรค นอกจากนี้ การเข้ามาของ แพทองธาร ยังเป็นจุดเชื่อมโยงตามที่บอกว่า บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม หัวใจเดิมคืออุดมการณ์ที่ร่วมงานตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ดังนั้น แพทองธารจึงเป็นจุดเชื่อมให้ทุกฝ่ายสามารถมาร่วมมือกันได้