วันที่ 7 พ.ย. 2565 ศาลอาญา พิพากษายกฟ้อง 7 จำเลย แอดมินเพจ “เรารักพล.อ.ประยุทธ์” โพสต์ข้อความชวนลอยกระทงขับไล่เผด็จการ เมื่อปี 2558 เหตุ ไม่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 - พรบ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ศาลพิพากษายกฟ้อง เหตุการตัดต่อและโพสต์ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (ในขณะนั้น) อยู่ในกระทง เชิญชวนมาร่วมงานลอยกระทง ไม่เป็นความผิดตาม ฐานยุยงปลุกปั่นสร้างความกระด้างกระเดื่องให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน เพราะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองตามรัฐธรรมนูญที่ให้เสรีภาพประชาชนในการแสดงความคิดเห็น พร้อมพยานหลักฐานไม่ปรากฎว่าในวันดังกล่าวเกิดเหตุการณ์รุนแรงหรือความไม่สงบขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลลุกออกจากบัลลังก์ วรวิทย์ หนึ่งในจำเลย ร้องไห้และกำหมัดด้วยความคับแค้นใจบริเวณที่นั่งของจำเลย ด้านหน้าบัลลังก์ศาล โดยเปิดเผยว่า ตลอดเวลากว่า 6 ปีที่ถูกดำเนินคดีและนำตัวเข้าเรือนจำ 12 วัน หลังออกจากเรือนจำ ตนถูกยึดของใช้จำเป็น อุปกรณ์สื่อสารหลายชนิด และถูกปฏิเสธโอกาสในการทำงาน เพราะต้องมีภาระเดินทางมาศาลบ่อยครั้ง ทางครอบครัวก็เป็นห่วงว่าจะถูกคุมขังอีกหรือไม่ สร้างความกังวล-ความเครียดสูง และก่อนหน้ามาฟังคำพิพากษาในวันนี้ ตนนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว

ด้าน วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ ตั้งข้อสังเกตว่า หากพนักงานอัยการไม่มีการยื่นอุทธรณ์ ก็ถือว่าคดีนี้ถึงที่สุดแล้วในศาลชั้นต้น หลายคดีที่ถูกโอนมาจากศาลทหาร ส่วนใหญ่แล้วสำนักงานอัยการศาลสูง ก็จะไม่ใช้สิทธิอุทธรณ์ แม้จะไม่เข้าใจเหตุผลที่แท้จริง แต่ขอวิงวอนไปยังพนักงานอัยการที่ดูแลคดีนี้ว่า เมื่อหลักฐานไม่สมบูรณ์ หรือไม่สามารถพิสูจน์ได้ในเชิงประจักษ์ และศาลไม่วินิจฉัยเนื้อหาซึ่งเป็นองค์ประกอบความผิดแล้ว ก็ขอไม่ให้เป็นเหตุยื่นอุทธรณ์คดี จะได้เป็นคดีที่ถึงที่สุดเช่นคดีอื่นๆ