ไม่พบผลการค้นหา
เอกชน 3 สถาบัน แนะกลุ่มลูกหนี้ที่กำลังจะหมดระยะพักเงินต้น-ดอกเบี้ย วันที่ 22 ต.ค.นี้ ชี้ องค์กรพร้อมดูแลผ่าน 'ท่านด่วนแก้หนี้'

คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย กลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย แจงกลุ่มลูกหนี้กับสถาบันการเงินที่ยังเผชิญความยากลำบากในการชำระสินเชื่อให้เร่งติดต่อกับเจ้าหนี้ หลังมาตรการพักชำระหนี้กำลังจะหมดลงในวันที่ 22 ต.ค.

ตามข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาตรการพักชำระหนี้ที่ผ่านมา สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งสิ้น 1.05 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้ราว 1.35 ล้านล้านบาท


4 กลุ่มลูกหนี้

ปัจจุบัน ธปท.ชี้ว่า กลุ่มลูกหนี้สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

  • 1) กลุ่มที่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติหลังหมดมาตรการ มีประมาณ 60% ของยอดหนี้ที่เข้าข่ายในการเข้าร่วมโครงการ
  • 2) กลุ่มที่สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจแต่ยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งหลังหมดโครงการ ธปท. จะให้สถาบันการเงินเจ้าหนี้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามความสามารถในการชำระหนี้ และพบว่ามีสัดส่วนราว 20% ของยอดหนี้ที่เข้าข่ายในการเข้าร่วมโครงการ
  • 3) กลุ่มที่ยังไม่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ ซึ่งหลังหมดโครงการ ธปท.จะให้สถาบันการเงินเจ้าหนี้พิจารณาขยายระยะเวลาการชำระหนี้เป็นรายกรณี ได้อีกไม่เกิน 6 เดือน นับจากสิ้นปี 2563 ลูกหนี้กลุ่มนี้มีประมาณ 10% ของยอดหนี้ที่เข้าข่ายในการเข้าร่วมโครงการ
  • 4) กลุ่มที่ขาดการติดต่อกับสถาบันการเงิน ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 6% ของยอดหนี้ที่เข้าข่ายที่สามารถเข้าร่วมโครงการ

ปัจจุบันแบงก์ชาติประกาศให้สถาบันการเงินคงสถานการณ์จัดชั้นลูกหนี้ถึงสิ้นปี 2563 สำหรับลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างการเจรจาปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ เพื่อช่วยไม่ให้ลูกหนี้กลายตกไปอยู่ในกลุ่ม 'หนี้เสีย' (NPLs) โดยชี้ว่าเป็นมาตรการที่เน้นช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้ที่มีปัญหาจริงและตรงจุด

กกร.เสริมว่า หากลูกหนี้รายได้ไม่สามารถพูดคุยกับไกล่เกลี่ยกับสถาบันการเงินได้ด้วยตนเอง สามารถแจ้งความต้องการที่จะปรับโครงสร้างหนี้ผ่านเว็บไซด์ 'ทางด่วนแก้หนี้' ตลอด 24 ชม หรือ ที่ศูนย์ประสานงานของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (หมายเลขโทรศัพท์ 023451000) หรือ ศูนย์ประสานงานของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (หมายเลขโทรศัพท์ 020186888 ต่อ 3520,3540) ตามที่ผู้ประกอบการเป็นสมาชิกอยู่ เพื่อประสานงานกับสมาคมธนาคารไทยและธนาคารเจ้าหนี้ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง;