ไม่พบผลการค้นหา
ฝ่ายค้านดักคอฝ่ายรัฐบาล อย่าป่วนการอภิปรายชำแหละปมถวายสัตย์ฯไม่ครบ พร้อมฉะนายกฯ ดูถูกชาวบ้านขอแต่เงิน ทำตัวอ่อนแอกว่าอดีตนายกฯหญิงที่ไม่ออกอาการเหนื่อยหน่ายกับการแก้น้ำท่วม ด้านเลขาธิการ พท. อัดรัฐบาลควรนำเงินช่วยน้ำท่วม ไม่ใช่ปรับฮวงจุ้ยทำเนียบฯ

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงท่าที ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ต่อกรณีน้ำท่วมว่า ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการบ่นว่าชาวบ้านขอแต่เงิน เป็นทัศนคติเชิงลบที่มีต่อชาวบ้าน หรือการบ่นว่าคนที่ตำหนิตัวเองนั้น เป็นท่าทีของการหนีหรือไม่สู้ปัญหา ซึ่งในอดีตนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ ก็เผชิญกับสภาพนี้ทั้งนั้น เพราะเป็นสถานการณ์ที่ผู้คนลำบาก ก็ต้องแสวงหาคนช่วยเหลือซึ่งก็คือรัฐบาล และชาวบ้านชอบธรรมที่จะทวงถาม 

นายสุทิน กล่าวด้วยว่า หากรัฐบาลช่วยไม่ได้หรือไม่ช่วย ก็เป็นเรื่องปกติที่ต้องถูกตำหนิติติง แต่ไม่มีรัฐบาลใดแสดงอาการเหนื่อยหน่าย ต่อว่าหรือย้อนสังคมอย่างที่พลเอกประยุทธ์ทำ โดยเห็นว่า รัฐบาลควรชี้แจงกับประชาชนสำหรับเกณฑ์การใช้เงิน ซึ่งสะท้อนอีกทีว่า การที่รัฐบาลปิดบังที่มาของงบประมาณจากการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จะไปโทษชาวบ้านไม่ได้ เพราะชาวบ้านไม่รู้ว่ารัฐบาลมีเงินหรือไม่ ก็ต้องขอหรือทวงถาม

นายสุทิน ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ปรับท่าทีใหม่ เพราะหากเปรียบเทียบกันแล้วน้ำท่วมที่ภาคอีสานปีนี้ ไม่หนักหน่วงเท่าปี 2554 สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ไม่เคยบ่นหรือเหนื่อยหน่ายในการแก้ปัญหาให้ชาวบ้านอย่างที่พล.อ.ประยุทธ์ทำ จึงอาจคิดได้ว่า "ชายชาติทหาร อ่อนแอกว่าผู้หญิง" ผู้คน อาจจะไม่มีความหวังว่าถ้าเจอปัญหาใหญ่ๆในอนาคตจะพึ่งนายกรัฐมนตรีคนนี้ได้หรือไม่เพราะปัญหาแค่นี้ก็พึ่งไม่ได้แล้ว 

ฝ่ายค้านจัด 15 คน ลุยชำแหละเวทีอภิปรายทั่วไปถวายสัตย์ฯ

นายสุทิน ยังระบุถึงผลการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเกี่ยวกับการอภิปรายโดยไม่ลงมติในวันที่ 18 ก.ย. ว่า ฝ่ายค้านจะเน้นคุณภาพ โดยใช้ ส.ส. 15 คนจาก 7 พรรคร่วมในการอภิปราย ซึ่งพยายามใช้เวลาให้กระชับที่สุด และหากครบถ้วนหรือนายกรัฐมนตรี ตอบปัญหาได้ชัดเจนก็อาจจะปิดการอภิปรายก่อนเวลา แต่หากขาดประเด็นยังไม่ครบถ้วนก็อาจจะต้องใช้เวลาจนถึงเที่ยงคืน 

ซึ่งต้องขอความร่วมมือฝ่ายรัฐบาลว่า อย่าป่วนหรือใช้วิธีการที่ทำลายจังหวะฝ่ายค้านในการอภิปรายด้วย โดยสิ่งที่วิตกคือ การที่รัฐบาลจะใช้เสียงที่มากกว่า ขอปิดประชุมก่อนกำหนด หรือขออภิปรายลับ และนับองค์ประชุม ที่สำคัญคือ เกรงว่าการประชุมจะเริ่มเหมือนวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หากเล่นวิธีแบบไม่มาลงชื่อหรือลงชื่อช้า แทนที่จะเริ่มที่ 09.30 น. อาจเป็น10.30 น. ทำให้เวลาฝ่ายค้านซึ่งน้อยอยู่แล้วน้อยลงไปอีก

แขวะรัฐบาลควรนำเงินช่วยน้ำท่วม ไม่ใช่ปรับฮวงจุ้ยทำเนียบฯ

ด้านน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง การอภิปรายโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เกี่ยวกับการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน และ การแถลงนโยบายของรัฐบาลโดยไม่ระบุที่มางบประมาณ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 ก.ย. โดยระบุว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ควรมาชี้แจงด้วยตัวเองว่า ข้อความที่หายไปในการถวายมีนัยยะสำคัญอะไรหรือไม่ ซึ่งสังคมอยากรู้ความจริงและหากนายกรัฐมนตรีกล้าที่จะพูดความจริงทุกอย่างก็จะมีทางออก และหากนายกรัฐมนตรีไม่มีเจตนาพิเศษหรือซ่อนเร้นความหมายอะไรไว้ ก็ควรจะใช้เวทีสภาผู้แทนราษฎรในการหาข้อยุติ หาทางออกร่วมกันให้มีบรรทัดฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้

น.อ. อนุดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่านายกรัฐมนตรีจะไม่ทำตัว "ลับลวงพราง" โดยอ้างภารกิจสำคัญอื่นๆ แล้วมอบหมายให้ตัวแทนชี้แจง เพราะกำหนดการเรื่องอภิปราย ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้านานพอสมควร ที่สำคัญของรัฐบาลเป็นผู้กำหนดวันอภิปรายด้วยตัวเองและเห็นว่า ไม่มีความจำเป็นที่รัฐบางต้องใช้งบประมาณไปปรับปรุงฮวงจุ้ยที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ควรนำเงินไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยจะดีกว่า

เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยังขอเรียกร้องนายกรัฐมนตรี ไม่ควรใช้เวทีเปิดการสัมมนาบุคลากรหรือแสดงวิสัยทัศน์ เป็นวิธีระบายความคับข้องหมองใจจากสิ่งที่พบจากการทำงานของรัฐบาล เพราะแทนที่ข้าราชการจะมีโอกาสฟังนโยบายหรือแนวต่างๆ เพื่อเอาไปปรับใช้ในการทำงาน กลับกลายเป็นต้องมานั่งฟังผู้นำระบายความในใจ หรือต้องฟังนายกรัฐมนตรีแก้ต่างในความผิดพลาดของตัวเอง ซึ่งไม่มีผู้นำประเทศไหนในโลกทำกันแบบนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง