อู่คยอว์ซอว์ โฆษกของ NUG วิพากษ์วิจารณ์การเดินทางเยือนเมียนมาของ ฉินกัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีน เมื่อวันอังคาร (2 พ.ค.) โดยกล่าวว่าเผด็จการทหารที่ปกครองเมียนมาในตอนนี้เป็น “ผู้ก่อการร้าย” ที่ไม่สามารถรักษาเสถียรภาพประเทศ ด้วยการสังหารอย่างโหดเหี้ยม การจับกุมตามอำเภอใจ และก้อวินาศกรรมต่อประชาชน
ฉินนับเป็นเจ้าหน้าที่ที่เป็นตัวแทนจากทางการจีน ที่อาวุโสที่สุดในการเข้าเจรจาครั้งแรกกับ มินอ่องหล่ายน์ หัวหน้าคณะรัฐประหารเมียนมาในกรุงเนปีดอว์ นับตั้งแต่การทำรัฐประหารของกองทัพเมื่อเดือน ก.พ. 2564 นอกจากนี้ ฉินยังได้เข้าพบกับอดีตผู้นำเผด็จการเมียนมาอย่าง ตานฉ่วย ด้วย
ทางการจีนกล่าวว่าการเยือนเมียนมาของฉิน เป็นการสนับสนุนความพยายามของเมียนมาในการรักษาเสถียรภาพ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ปรับปรุงชีวิตผู้คน และตระหนักถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งนี้ ฉินได้เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศเคารพอำนาจอธิปไตยของเมียนมา และช่วยให้เมียนมาบรรลุสันติภาพและการปรองดอง อย่างไรก็ดี การประชุมดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
อู่คยอว์ซอว์กล่าวในการแถลงข่าว ซึ่งจัดขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 2 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้ง NUG ว่า “อำนาจอธิปไตยไม่ได้อยู่ในมือของเผด็จการทหาร อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนชาวเมียนมา” โดยเขายังกล่าวอีกว่า ความยินยอมพร้อมใจของประชาชนเป็นหนทางเดียว ที่จะบรรลุเสถียรภาพระยะยาวในเมียนมา
อู่คยอว์ซอว์กล่าวว่า NUG ยอมรับความปรารถนาของจีน ที่ต้องการบรรลุเสถียรภาพในเมียนมา และเคารพในอำนาจอธิปไตยของเมียนมา “อย่างไรก็ดี หากกระบวนการนี้ขัดต่อความปรารถนาของประชาชนชาวเมียนมา มันอาจไม่ใช่การกระทำเชิงบวกและมีผลในทางลบ ดังนั้น เราหวังว่าจะมีการดำเนินการให้สอดคล้องกับความปรารถนาของประชาชนชาวเมียนมา”
อู่คยอว์ซอว์ยังกล่าวว่า NUG ในฐานะรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย ได้เปิดประตูสู่ประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมดเพื่อความร่วมมือ ทั้งนี้ ระบอบการปกครองของเผด็จการเมียนมา ถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมระหว่างประเทศ สืบเนื่องจากความโหดร้ายที่กองทัพกระทำต่อพลเรือนอยู่บ่อยครั้ง
NUG อ้างว่ากองกำลังติดอาวุธของตัวเอง มีจำนวนมากกว่ากองกำลังของเผด็จการทหาร และจะต่อสู้กับฝ่ายระบอบมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเสียเปรียบในด้านอำนาจการยิงก็ตาม
ที่มา: