ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้ารับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด- 19 ช่วงเช้าของวันที่ 18 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ชาวอเมริกันซึ่งหลายส่วนยังมีความหวั่นวิตกเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนดังกล่าว หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ( FDA) ได้อนุมัติฉุกเฉินใช้วัคซีนป้องกันโควิดของบริษัทไฟเซอร์เป็นชนิดแรก
นอกจากรองปธน.สหรัฐฯ แล้ว คาเรน เพนซ์ ภริยา รวมทั้งเจอโรม อาดัมส์ เจ้ากรมการแพทย์สหรัฐฯ ก็เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรกเช่นกัน ก่อนที่จะมีกำหนดเข้ารับวัคซีนเข็มที่ 2 เพื่อให้ครบโดสหลังจากนี้ในอีก 21 วัน อย่างไรก็ดี สำหรับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่มีรายงานว่าจะเข้ารับวัคซีนเข็มแรกเมื่อใด โดยทำเนียบขาวระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ จะเข้ารับวัคซีนต่อเมื่อทีมแพทย์แนะนำว่าถึงว่าที่ 'เหมาะสม'
จากผลสำรวจของรอยเตอร์และอิปซอส ระบุว่า มีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 61% ที่แสดงเจตจำนงเข้ารับวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากยังคงกังวลถึงความปลอดภัย
ขณะเดียวกัน FDA สหรัฐฯ ออกรายงานก่อนหน้านี้ว่า ผู้เข้ารับวัคซีนของไฟเซอร์อาจมีอาการแพ้ หลังจากที่พบว่ามีอาสาสมัครที่เข้ารับการทดสอบวัคซีนก่อนหน้านี้ 4 ราย จากทั้งหมด 43,000 ราย มีอาการใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก (Bell's palsy) โดยอาการอาจเกิดหลังเข้ารับวัคซีนราว 22-30 วัน
ด้าน ดร.ปีเตอร์ มาร์คส ผู้อำนวยการศูนย์ประเมินผลและวิจัยทางชีววิทยาของสำนักงานอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐเผยว่า อาการแพ้วัคซีนไฟเซอร์นั้นอาจมาจากสารเคมีที่เรียกวว่า โพลีเอทิลีน ไกลคอล (polyethylene glycol - PEG) ซึ่งถูกใช้เป็นส่วนผสมในวัคซีนของไฟเซอร์ รวมถึงวัคซีนของโมเดอร์ อาจเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ดังกล่าว
เช่นเดียวกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร ที่ออกคำเตือน หลังเริ่มฉีดวัคซีนโควิดแก่กลุ่มเสี่ยงเป็นครั้งแรกว่า ผู้มีประวัติการแพ้ยาควรหลีกเลี่ยงการเข้ารับวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์
ทั้งนี้ นอกจากรองปธน.สหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐทั้ง บารัก โอบามา, จอร์จ ดับเบิล.ยู บุช และ บิล คลินตัน ต่างพร้อมใจแสดงเจตจำนงเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยยินยอมให้ถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ชาวอเมริกัน
เมื่อ 18 ธ.ค. สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ ยังได้อนุมัติฉุกเฉินวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นาแล้ว นับเป็นบริษัทผู้วิจัยวัคซีนโควิดรายที่สองในสหรัฐ หลังจากวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ ที่ได้รับอนุมัติใช้ดังกล่าว โดยทางการจะเริ่มทำการแจกจ่ายวัคซีนโมเดอร์นาราว 5.9 ล้านโดสให้กับรัฐ, เขตแดน และเมืองใหญ่ทั่วประเทศรวม 64 แห่งช่วงสัปดาห์หน้า
จากข้อมูลของบลูมเบิร์กระบุว่า จนถึง ณ วันที่ 19 ธ.ค. ทั่วโลกมีประชากรที่ได้รับวัคซีนโควิดเข็มแรกแล้วราว 1.2 ล้านคนใน 4 ประเทศ คือ จีน สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ และรัสเซีย โดยจีน มีประชากรเข้ารับวัคซีนแล้วราว 650,000 ราย ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. ขณะที่สหราชอาณาจักร ราว 137,900 ราย เมื่อ 15 ธ.ค. และสหรัฐที่ราว 127,600 ราย จากการฉีดเข็มแรกเมื่อ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :