ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์เมื่อ 14 ธ.ค. ถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ โดยระบุว่า สิงคโปร์เตรียมผ่อนคลายมาตรการป้องกันการระบาดในระยะที่ 3 โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 28 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป หลังสถานการณ์ระบาของไวรัสโคโรนาในประเทศดีขึ้น
ภายใต้มาตรการระยะ 3 ทางการจะอนุญาตให้มีการรวมตัวของกลุ่มคนช่วงเทศกาลปีใหม่ได้ไม่เกิน 8 คน โดยผู้นำสิงคโปร์ย้ำว่า ทุกคนยังคงต้องระมัดระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในอีกระลอก ซึ่งสิงคโปร์เตรียมเปิดประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยเตรียมหาแนวทางการเปิดพรมแดนภายในปีหน้า และรัฐบาลพร้อมทำงานหนักเพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้งในปีหน้า
นายกฯ สิงคโปร์ยังได้กล่าวถึงประเด็นวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยว่า รัฐบาลได้สั่งจองวัคซีนโควิด ของบริษัทไฟเซอร์ที่พัฒนาร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเทค ของเยอรมนี หลังจากที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขสิงคโปร์ได้อนุมัติฉุกเฉินให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์ในการแจกจ่ายแก่ประชาชน
ลีเซียนลุง ยืนยันว่า คณะรัฐมนตรี ผู้สูงอายุ และบุคคลากรทางการแพทย์ จะเป็นกลุ่มบุคคลแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน ก่อนจะเริ่มการแจกจ่ายวัคซีนในรูปแบบสมัครใจ ฉีดฟรีให้กับชาวสิงคโปร์ที่มีราว 5.8 ล้านคน รวมถึงผู้ถือวีซ่าพำนักระยะยาวก็มีสิทธิเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดฟรีเช่นกัน โดยจัดสรรงบประมาณสำหรับวัคซีนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในการจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ โดยได้รับวัคซีนล็อตแรกภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ และคาดว่าจะมีวัคซีนครอบคลุมประชาชนทุกคนภายในไตรมาส 3 ของปี 2564
สำหรับวัคซีนไฟเซอร์นับว่าเป็นวัคซีนที่มีความคืบหน้ากว่าวัคซีนจากผู้ผลิตรายอื่นๆ โดยหน่วยงานสาธารณสุขหลายชาติทั้งใน สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ แคนาดา และอิสราเอล ต่างอนุมัติใช้วัคซีนดังกล่าวในการแจกจ่ายแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ที่มา : CNA