วันที่ 25 มี.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าของสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า สถานการณ์ในประเทศไทย มีผู้ป่วยหายกลับบ้านเพิ่ม 13 ราย และพบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อเพิ่มใหม่ 107 ราย นับเป็นรายที่ 828-934 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้
โดย นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักมีจำนวน 4 ราย ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งทีมแพทย์จะต้องเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด สรุปรวมประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยันสะสม 934 ราย กลับบ้านแล้ว 70 รายและรักษาอยู่ใน รพ.จำนวน 860 ราย มีผู้ป่วยอาการหนัก 4 ราย และเสียชีวิต 4 ราย
ขณะนี้ประชาชนที่ทำงานในกทม.และปริมณฑล ได้ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา มีโอกาสนำโรคไปแพร่กระจายให้ผู้ใกล้ชิด กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุข สำรวจผู้เดินทางกลับภูมิลำเนา ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวแยกตนเองอยู่บ้าน 14 วัน ประชาสัมพันธ์มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) งดกิจกรรมรวมกลุ่มสังสรรค์ หากพบมีคนป่วยให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้มีโรคประจำตัวมีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่าย ควรงดออกจากบ้าน เพื่อลดโอกาสรับเชื้อ ส่วนคนในบ้านที่ออกไปทำงานมีโอกาสไปรับเชื้อจากนอกบ้าน เมื่อกลับถึงบ้านให้ทำความสะอาดร่างกายทันที หมั่นล้างมือบ่อยๆ ให้เว้นระยะห่างในครอบครัวด้วย เพื่อป้องกันนำเชื้อโรคมาให้คนในครอบครัว
ขอความร่วมมือประชาชนทุกคน หากป่วย มีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจให้รีบพบแพทย์ทันที ให้ข้อมูลตามความจริง เพื่อจะได้วินิจฉัยรักษาได้ทันท่วงที ขอให้ทุกคนคำนึงถึงความปลอดภัยของแพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุข อย่าปกปิดข้อมูลประวัติเสี่ยง เพราะจะส่งผลเสียต่อการรักษาโรค ที่สำคัญเกิดความเสี่ยงต่อบุคลากร หากติดเชื้อจะส่งผลต่อการจัดบริการ ขาดผู้รักษาพยาบาลผู้ป่วย จะเกิดผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขอย่างมาก