ไม่พบผลการค้นหา
ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 พบผู้ติดเชื้อใหม่ 103 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 1,978 ราย เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 19 ราย เผยมี 15 จังหวัดยังไม่พบรายงานผู้ป่วยโควิด-19

วันที่ 3 เม.ย. 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุดวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 103 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย ยอดผู้ติดเชื้อรวมสะสมอยู่ที่ 1,978 ราย รักษาหายแล้ว 581 ราย

สำหรับผู้เสียชีวิตที่เพิ่มเข้ามาในวันนี้ 

  • รายที่ 1 เป็นชายวัย 59 ปี อาชีพพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไม่มีโรคประจำตัว เริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.จากอาการไข้ จากนั้นในวันที่ 21 มี.ค.ไปพบแพทย์ที่ รพ.บางปะกอก ก่อนจะกลับไปทำงานปกติเพราะมีอาการน้อยมาก แต่ปรากฎว่าอีกระยะหนึ่งมีอาการหนักในวันที่ 31 มี.ค.ด้วยการเหนื่อยหอบ และเข้ารักษาใน รพ.โรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่ง พบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนจะเสียชีวิตในวันที่ 2 เม.ย.
  • รายที่ 2 เป็นชายวัย 72 ปี ประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายเดิม ที่เป็นลูกซึ่งไปชมการชกมวยมา โดยป่วยและเข้ารักษาใน รพ.กทม.มีโรคประจำตัวเป็นโรคไต เริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.และเสียชีวิตในวันที่ 1 เม.ย.
  • รายที่ 3 เป็นชายวัย 84 ปี ทำงานที่สนามมวยราชดำเนิน มีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งโรคไต ความดัน และเก๊าท์ โดยเข้า รพ.ในกทม.ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.และเสียชีวิต 2 เม.ย.
  • รายที่ 4 เป็นชายวัย 84 ปี มีประวัติไปสนามมวยราชดำเนิน เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 14 มี.ค.และเข้ารักษาใน รพ.ในวันที่ 21 มี.ค.ด้วยอาการไข้ 39.3 องศาฯ มีน้ำมูล และไอ จากนั้นย้ายไป รพ.ของรัฐบาลใน กทม.จนกระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 2 เม.ย.

โฆษก ศบค. ระบุว่า จำนวนผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้น 103 รายในวันนี้ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

  • กลุ่มแรก 48 คน เป็นผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสหรือเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ ทั้งกลุ่มสนามมวย, กลุ่มสถานบันเทิง, พิธีกรรมทางศาสนา เป็นต้น
  • กลุ่มสอง 44 คน เป็นผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ เช่น คนไทย-ต่างชาติ ที่เดินทางเดินทางกลับจากต่างประเทศ ผู้ที่เข้าไปในสถานที่ชุมชน และผู้ที่มีอาชีพเสี่ยง บุคลากรทางการแพทย์ เป็นต้น
  • กลุ่มสาม 11 คน อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค

สำหรับผู้ป่วยยืนยันทั้ง 1,978 คน แยกเป็น คนต่างชาติ 294 คน และคนไทย 1,684 คน ซึ่งในจำนวนนี้ อยู่ในกรุงเทพฯ-นนทบุรี 1,049 คน รองลงมา อยู่ในภาคกลาง 291 คน ภาคใต้ 277 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 94 คน และภาคเหนือ 74 คน จำนวนอายุเฉลี่ยของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 39 ปี โดยผู้เสียชีวิตอายุน้อยสุดอยู่ที่ 6 เดือน และอายุสูงสุด 86 ปี

ทั้งนี้ หากจำแนกตามอายุ กลุ่มอายุ 20-29 ปี เพิ่มขึ้นตลอดตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา เพราะมีการเดินทาง เคลื่อนย้าย พบปะสังสรรค์กันมาก ถือเป็นกลุ่มเสี่ยง

อย่างไรก็ดี อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยไทยจากโควิด-19 ที่ปัจจุบันมียอดรวม 19 คน นั้นถือว่าอยู่ในระดับต่ำที่ หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.96 จากจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันทั้งหมดของประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว

รักษาพื้นที่ 15 จังหวัด ปลอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้ได้นานที่สุด

ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยืนยันทั้ง 1,978 คน มาจาก 62 จังหวัดทั่วประเทศ โดยยังเหลืออีก 15 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประกอบด้วย กำแพงเพชร, ชัยนาท, ตราด, น่าน, บึงกาฬ, พระนครศรีอยุธยา, พังงา, พิจิตร, ระนอง, ลำปาง, สกลนคร, สตูล, สิงห์บุรี, สมุทรสงคราม และอ่างทอง

โฆษก ศบค. ระบุว่า จะมีคนไทยจาก 3 กลุ่มใหญ่ที่เตรียมจะเดินทางกลับเข้าประเทศภายในเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นกรณีที่ได้มีการขออนุญาตไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงทำให้สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ แม้นายกรัฐมนตรีจะมีคำสั่งให้คนไทย-ต่างชาติ ชะลอการเดินทางเข้าประเทศในช่วง 2-15 เม.ย. ซึ่งประกอบด้วย คนไทยที่จะเดินทางกลับจากอินโดนีเซีย 100 คน ในวันที่ 6 เม.ย., คนไทยที่จะเดินทางกลับจากมาเลเซีย 83 คน, และอีกส่วนหนึ่งเป็นนักเรียนทุน AFS

"ทั้งหมดที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทย เมื่อเข้ามาถึงแล้วทุกคนต้องอยู่ในพื้นที่ที่รัฐจัดให้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสจะนำเชื้อมาให้คนไทยในประเทศ" นพ.ทวีศิลป์ระบุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :