ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบจะสังกัดพรรคการเมืองใด ขอให้ไปดูกฎหมาย พร้อมระบุว่าสิ่งดีๆ กำลังเกิดขึ้น อย่าสนใจแต่กระพี้

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุม คสช.ก่อนการประชุม ครม. โดยคาดการณ์ว่าจะหารือเรื่องการคลายล็อกพรรคการเมือง ที่ คสช.จะประชุมร่วมพรรคการเมือง ร่วมกับ กกต.ในวันที่ 7 ธ.ค.นี้

ซึ่งวันนี้นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธให้ความชัดเจนสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้าย ที่ กกต.กำหนดให้บุคคลที่จะลงสมัคร ส.ส.ต้องสังกัดพรรคการเมือง โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวเพียงสั้นๆ ว่าให้ไปดูข้อกฎหมาย ก่อนที่จะร่วมประชาสัมพันธ์ กับกระทรวงการพัฒนาสัมคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อแสดงเจตจำนงในการร่วมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว รวมถึงความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบตลอดทั้งเดือนนี้ (พ.ย.)

ประยุทธ์.jpg

จากนั้นร่วมประชาสัมพันธ์งานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 9 ธันวาคมของทุกปี โดยคณะกรรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. จะจัดกิจกรรม ชูแนวคิด Zero Tolerance (ซีโร่ ทอเลอเร้นซ์) คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต โดยในวันที่ 2 ธ.ค. จะมีกิจกรรมเดิน-วิ่ง รณรงค์ส่งเสริมคุณธรรม ราษฎร์ - รัฐ ร่วมใจไม่เอาคอร์รัปชั่น ครั้งที่ 1 และในวันที่ 7 ธ.ค. จะประกาศเจตนารมณ์ ในวันต่อต้านคอร์รัปชั่น

ด้านกระทรวงสาธารณสุข นำเสนอ โครงการ อย. น้อยเพื่อปรับพฤติกรรมการบริโภคในกลุ่มเยาวชน ด้วยการนำเสนอสื่อให้เยาวชนเข้าใจง่าย ลดปัจจัยเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และลดการบริโภคขนมขบเขี้ยวรวมถึงน้ำอัดลม จากนั้น เยี่ยมชมการดำเนินงานจัดตั้งศูนย์ที่นี่มีงานทำ ของกระทรวงแรงงาน ที่ช่วยบัณฑิตว่างงาน โดยการจัดหางานผ่านแอปพลิเคชันไลน์จ็อบ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ขอบคุณหน่วยงานที่ช่วยกันพัฒนาระบบต่างๆ เพื่อประชาชนคนไทย พร้อมระบุว่าสิ่งดีๆกำลังเกิดขึ้นอีกเยอะในช่วงนี้ ดังนั้นอย่าสนใจแต่กระพี้

ไลน์.jpg

ส่วนวาระการประชุม ครม. นั้น กระทรวงวัฒนธรรมเตรียมเสนอให้ปี 2562 เป็นปีแห่งวัฒนธรรมไทย และปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียน และคาดว่านายกรัฐมนตรี จะหารือประเด็นอนุมัติงบประมาณ โครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งเตรียมตรวจสอบว่าเป็นการใช้งบประมาณเพื่อหาเสียงล่วงหน้าหรือไม่

และ ครม. จะให้ความเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 2561 – 19 มี.ค. 2562