ก่อนการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.และประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เยี่ยมชมบูธกิจกรรมของกระทรวงวัฒนธรรม โดยมีนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมนำคณะผู้บริหาร เข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อประชาสัมพันธ์ กิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี ถวายเป็นพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วโลก” ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 2561 ถึงวันที่ 1 ม.ค. 2562 โดยจะร่วมกับวัดทั่วประเทศจัดสถานที่เหมาะสมสำหรับการสวดมนต์ข้าม พร้อมจะมีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธรูปสำคัญจาก 13 ชาติประดิษฐานให้คนไทยสักการะ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 2561 ถึงวันที่ 1 ม.ค. 2562

จากนั้นก็จะอัญเชิญไปประดิษฐานให้ประชาชนได้สักการะ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จนถึงวันที่ 15 ม.ค. 2562  และ กิจกรรม "ไหว้พระ 10 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 10 รัชกาล ที่เกี่ยวเนื่องกับพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีระหว่างวันที่ 30 ธ.ค. 2561 ถึงวันที่ 1 ม.ค. 2562

สุดท้ายนายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมบูธโครงการอ่าน สร้างชาติซื้อหนังสือลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ขอให้ช่วยกันสนับสนุนการอ่านหนังสือ เพราะหนังสือมีชีวิต พร้อมขอให้หาหนังสือดีๆ มาแนะนำประชาชนเพื่อทำให้ธุรกิจหนังสืออยู่ได้ สนับสนุนการอ่านให้มาก มิเช่นนั้น ก็จะอ่านแต่ในโซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียว

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ ร่วมชมบูธ ประชาสัมพันธ์กิจกรรม “ROAD SHOW” เทศกาลข้าวไทย 2561 (THAI RICE FESTIVAL 2018) โดยมีนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำเยี่ยมชม โดยนายกรัฐมนตรีได้ทดลองตำข้าว เพื่อใช้ทำชาข้าวเปลือก ก่อนชิมชาและข้าวเม่าโบราณ พร้อมแนะนำให้หานวัตกรรมใหม่มาใช้ เพราะวิธีที่ใช้อยู่เป็น 1.0 นายกฯ กล่าวอีกว่า ชาวนาน่าจะรวย จึงขอให้ยกระดับราคาสินค้าและนำไปขายออนไลน์ เพราะหากนั่งขายเฉยๆ ก็จะไม่ได้อะไร 

สุดท้าย นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้พานายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมการแสดงผลงานจากผู้ประกอบการสตาร์ทอัพสาย Deep Tech ด้านสุขภาพและการแพทย์  โดยนายกรัฐมนตรีได้สวมแว่น 3 สามมิติและบังคับหุ่นยนต์ถือกล้องผ่าตัด รุ่นที่ 2 จากนั้นได้เดินเยี่ยมชมเครื่องลดอุณหภูมิอากาศด้วยเทคนิคการระเหยน้ำเย็นเป็นเครื่องปรับอากาศด้วยลมเย็น 

โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับผู้ประกอบการวันนี้ ว่า เรื่องนวัตกรรมต่างๆ นั้นจะเป็นตัวช่วยในการลดความเหลื่อมล้ำ สร้างการกระจายรายได้ พร้อมสนใจและให้แนวคิด ว่าเราจะนำต้นยาสูบมาใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์มากขึ้น อาจไม่ได้นำไปผลิตเป็นยาสูบอย่างเดียว แต่ทำเป็นอย่างอื่นเพิ่มเติมด้วย โดยผู้ที่มาจัดบูธได้ตอบกลับนายกรัฐมนตรีว่า ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ อย่างการปลดล็อกยาสูบใช้ทำยาได้ เพราะผู้ประกอบการเองพร้อมที่จะผลักดัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีระบุว่า "ให้พูดกับรัฐบาล อย่าไปพูดกับการเมือง เพราะพรรคการเมืองก็คือพรรคการเมือง ไม่เกี่ยวกัน"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ประกาศปรับราคาบุหรี่เริ่มต้นที่ซองละ 80 บาท