ไม่พบผลการค้นหา
'ก้าวไกล' ขอ ส.ส.ร่วมหนุนเสนอแก้ รธน. ยกเลิก ส.ว. ตามบทเฉพาะกาล เตรียมแยกออกเป็น 3 ญัตติ เพื่อความเป็นไปได้ หากรายชื่อไม่ถึง เตรียมเปิดเวทีทั่วประเทศ ล่าชื่อประชาชน 50,000 รายชื่อ เพื่อเสนอร่าง

ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงย้ำเตรียมเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูยปี 2560 เพื่อยกเลิกบทเฉพาะกาลมาตรา 269 ถึง 272 เกี่ยวกับ ส.ว.ที่แต่งตั้งโดย คสช. และอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีว่า เพราะเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด เป็นกล่องดวงใจในการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร ทำลายเจตจำนงของประชาชน ขัดต่อหลักการพื้นฐานสำคัญของระบอบประชาธิปไตย จึงขอเชิญชวน ส.ส.ร่วมกันเข้าชื่อเสนอญัตติภายในสมัยประชุมนี้ โดยไม่จำเป็นต้องให้สภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. เป็นผู้ดำเนินการ เพราะการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องใช้เวลาอีกเกือบ 2 ปี จึงจะแล้วเสร็จ และยังไม่รู้ว่ากระบวนการตั้ง ส.ส.ร.จะถูกเตะถ่วงไปอีกนานแค่ไหน 

ส่วนที่มองว่าโอกาสความเป็นไปได้น้อยมากที่ ส.ว.จะร่วมลงมติเห็นชอบ ชัยธวัช กล่าวว่า แม้การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องอาศัยเสียง ส.ว.อย่างน้อย 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดที่มีอยู่ แต่ย้ำว่ากระแสการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นขณะนี้ ไม่ได้มาจากการยินยอมพร้อมใจของรัฐบาล หรือ ส.ว. แต่อย่างใด แต่เกิดขึ้นจากเสียงเรียกร้องกดดันของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วประเทศ จนถึงขนาด ส.ว.บางคนก็ออกมายอมรับว่า ควรยกเลิกอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ด้วยโอกาสความเป็นไปได้ ทางพรรคก้าวไกลก็จะเสนอแยกออกเป็น 3 ญัตติคือ ญัตติแก้ไขยกเลิกมาตรา 269, ญัตติแก้ไขยกเลิกมาตรา 270 ถึง 271 และญัตติแก้ไขยกเลิกมาตรา 272 แต่หากได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.เพื่อเสนอญัตติไม่ถึงตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ทางพรรคก้าวไกลก็จะเปิดเวทีทั่วประเทศ เพื่อรวบรวมรายชื่อประชาชนให้ได้ไม่น้อยกว่า 50,000 รายชื่อ เพื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในนามประชาชนต่อไป 

ส่วนที่พรรคเพื่อไทยจะไม่ร่วมลงชื่อเสนอญัตติให้พรรคก้าวไกล เนื่องจากควรให้ ส.ส.ร.เป็นผู้ตัดสินใจแก้ไขเรื่อง ส.ว.ตามบทเฉพาะกาล เพื่อเป็นไปตามเจตจำนงประชาชนอย่างแท้จริง ชัยธวัช กล่าวว่า ประชาชนมีฉันทานุมัติอยู่แล้วว่าควรแก้ไข ส.ว.บทเฉพาะกาล โดยไม่ต้องรอ ส.ส.ร. ส่วนญัตติของพรรคเพื่อไทยที่พรรคก้าวไกลไม่ได้ร่วมลงชื่อเสนอญัตติด้วย เนื่องจากเห็นแย้งว่าไม่ควรล็อกไม่ให้แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 แต่เมื่อพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นต่างออกไป พรรคก้าวไกลจึงขอถอนชื่อออกจากญัตติ แต่ยืนยันว่า ส.ส.พรรคก้าวไกล จะโหวตสนับสนุนรับหลักการวาระที่ 1 แต่จะขอแปรญัตติเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวาระที่ 2 เพื่อให้ ส.ส.ร.สามารถทำงานสะท้อนเจตจำนงของประชาชนได้ทุกกลุ่ม ไม่ปิดกั้นความคิด ความฝัน ของกลุ่มใด ซึ่งสุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองว่า เนื้อหารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเป็นเช่นไร โดยผ่านกลไกลของ ส.ส.ร.และการทำประชามติ