นักเศรษฐศาสตร์จาก 'โกลด์แมน แซคส์’ และ ‘มอร์แแกน สแตนลีย์’ บริษัทด้านการเงินและการลงทุนยักษ์ใหญ่ของโลก ออกมาคาดการณ์ผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจเป็นชนวนหลักที่ทำให้เศรษฐกิจโลกเดินหน้าเข้าสู่การถดถอยได้ โดยมุ่งประเด็นสำคัญไปที่ผลกระทบครั้งนี้จะกินเวลามากน้อยแค่ไหน
‘ชีตัน อายา’ ทีมนักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า ในการณีพื้นฐาน เศรษฐกิจโลกในปีนี้จะชะลอตัวลดลง มาอยู่ที่ร้อยละ 0.9 ขณะที่ฝั่งโกลด์ แซคส์ ประเมินการตกต่ำไว้เพียงร้อยละ 1.25 ขณะที่ฝั่งบริษัทแอสแอนด์พีโกลบอลก็มองการเติบโตโลกไว้ในช่วงร้อยละ 1 - 1.5 เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับวิกฤตการเงินในช่วงปี 2552 ที่การเติบโตอยู่ที่เพียงร้อยละ 0.8 ตามข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ถือว่ายังไม่แย่มากนัก อีกทั้ง ทั้ง 2 บริษัทมองว่า เศรษฐกิจอาจปรับตัวขึ้นมาดีได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ทั้งนี้ การประเมินตัวเลขเศรษฐกิจยังคงต้องประเมินนโยบายที่ฝั่งผู้ออกนโยบายเตรียมไว้ใช้ควาบคุมความฉุกเฉินด้านสาธรณสุขในครั้งนี้เพิ่มเติม รวมถึงมาตรการเยียวยาบริษัทต่างๆ
นักเศรษฐศาสตร์จากมอร์แกน สแตนลีย์ ปิดท้ายว่า “ขณะที่นโยบายออกมาจะมีผลเสียเรื่องมาตรการควบคุมออกมาด้วย ความเสียหายที่ซ่อนอยู่จากผลกระทบของโควิด-19 และสภาพการเงินที่ตึงตัวจะส่งผลช็อคกับเศรษฐกิจโลก”
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังชี้ว่ามีโอกาสเช่นเดียวกันที่สถานการณ์ต่างๆ จะเลวร้ายลง โดยเฉพาะหากเชื้อไวรัสยังคงระบาดต่อเนื่องเกินการคาดการณ์ เนื่องจากจะส่งผลกระทบในหลายภาคส่วน ทั้งโรงงาน โรงเรียน ร้านอาหาร และร้านค้า