นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวในงานเปิดหลักสูตร 'ดีไอพี เอสเอ็มอี อาคาเดมี' หรือ DIP SME Academy ปีที่ 3 ว่า กสอ.เล็งเห็นถึงความสำคัญของเอสเอ็มอีและต้องการจัดกิจกรรม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการเพื่อการประกอบธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

"ผมถือว่าเราต้องมีความต้องการก่อน ไม่งั้นจะไม่มีประโยชน์ เดี๋ยวหนี ล้มหายตายจากไปอีก" นายกอบชัย กล่าว

หากมองประโยชน์ที่คาดว่าผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับ การเตรียมพร้อมรับมือกับสภาวการณ์เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนดูจะเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญ อีกทั้งการก้าวเข้าสู่การผลัดเปลี่ยนทางเทคโนโลยีก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการน่าจะได้ประสบการณ์ที่มีประโยชน์

หลักสูตรที่ กสอ. จัดไว้จะเป็นการผสมผสานการเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ โดยเนื้อหาที่มีการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ ได้แก่ (1) การปรับตัวขององค์กรเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (2) การระดมทุน (3) การระดมความคิดเพื่อแก้ไขปัญหา (4) ฟินเทค (5) เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (6) การจัดการดับข้อมูลขนาดใหญ่ (big data)

ขณะที่ บทเรียนผ่านแพลตฟอร์มออฟไลน์จะเป็นการจัดสัมมนาจับคู่ผลงานวิจัยและการสัมมนาจัดทำแผนธุรกิจและนำเสนอแผนธุรกิจ

นายกอบชัย กล่าวว่า กสอ. หวังว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้จะสามารถต่อยอดการทำธุรกิจของผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดแล้ว อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนการจัดตั้งธุกิจใหม่

ทั้งนี้ ใน 2 ปีที่ผ่านมา กิจกรรมดังกล่าวมีผู้สนใจเข้าร่วมทั้งสิ้น 17,600 ราย และจบหลักสูตรกว่า 1,500 ราย ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 600 ล้านบาท และหวังว่ามูลค่าเศรษฐกิจในปีนี้จะเพิ่มขึ้นกว่าพันล้านบาทได้

แท้จริงแล้วเอสเอ็มอีเป็นหนึ่งในกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจประเทศเช่นเดียวกับอาชีพเกษตรกรรม ท่ามกลางสภาวะที่มีความไม่แน่นอนทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการควรเตรียมความพร้อมในการทำธุรกิจและการเติมความรู้เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนต่างๆ และยืนเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจประเทศในวันที่ไทยต้องพึ่งตัวเองเป็นหลัก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ทษช.” เปิดตัว “เทคซิโนมิกส์” ประสาน “เศรษฐกิจ-เทคโนโลยีใหม่
• 'เพื่อไทย' เปิด 10 มาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทย
• 'ประชาธิปัตย์' ประกาศแก้จน - 'เพื่อไทย' ชวนคนรุ่นใหม่ชี้ชะตาอนาคต