การพิจารณาถอนตัวในครั้งนี้ของเอเนออสเกิดขึ้น หลังจากที่เดือนก่อนบริษัทของรัฐบาลมาเลเซียอย่างปิโตรนาส และบริษัทมิตซูบิชิ คอร์ป ของญี่ปุ่นตัดสินใจถอนตัวออกจากโครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ล่าสุดของบริษัทยักษ์ทั้งสอง ในการการถอนการลงทุนของตนเองออกจากเมียนมาภายหลังการรัฐประหาร
“เราได้ทำการสำรวจและพูดคุยกับหุ้นส่วนทางธุรกิจของเราเกี่ยวกับความเป็นไปได้ทางมาตรการต่างๆ จากการปิดฐานธุรกิจต่อสถานการณ์ เพื่อตอบรับกับปัญหาทางด้านสังคม และศักยภาพทางธุรกิจ” โฆษกของ เอเนออส โฮลดิ้ง ระบุกับ Reuters
จากรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 มี.ค.) ของสำนักข่าว Nikkei ระบุว่า เอเนออสตัดสินใจถอนตัวออกจากโครงการเยตากุนของเมียนมา จากการถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าโครงการดังกล่าวเป็นแหล่งเงินทุนหลักให้แก่คณะรัฐประหารเมียนมา
เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา บริษัทโททัลเอเนอร์จีส์ และเชฟรอน คอร์ป สองหุ้นส่วนทางธุรกิจขนาดใหญ่ด้านโครงการพลังงานก๊าซของเมียนมาได้ตัดสินใจถอนตัวออกจากการทำธุรกิจในเมียนมา โดยอ้างว่าเกิดขึ้นจากสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ นับตั้งแต่กองทัพเมียนมาเข้าทำรัฐประหาร
จากรายงานระบุอีกว่า โครงการเยตากุนมีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ บริษัทปิโตรนาส กับ พีซี เมียนมา (ฮ่องกง) อยู่ที่ 40.9% ตามมาด้วยบริษัทเมียนมาออยแอนด์ก๊าซที่ 20.5% ทั้งนี้ มีบริษัทของญี่ปุ่นที่นำโดยรัฐบาล และเอเนอออส และ บริษัทสำรวจเจเอ็กซ์ นิปปอน ออยแอนด์ก๊าซ ถือหุ้นอีก 19.3% รวมถึงบริษัท PTTEP ของไทยอีก 19.3%
ที่มา:
https://www.offshore-technology.com/news/mitsubishi-petronas-exit-myanmar/
https://www.pttep.com/en/OurBusiness/Explorationandproduction/projects/Myanmar/Yetagunproject.aspx