เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยพาดพิงถึงคนดูละครและคนทำละครไทย โดยระบุว่า ตื่นขึ้นมาส่วนใหญ่ก็รับทุกข์ ฟังข่าวแล้วทุกข์แทนคนนั้นคนนี้ ทุกคนรู้หมดแต่รู้ในด้านไม่สร้างสรรค์ มีแต่สร้างความวุ่นวายตื่นตระหนก เหมือนหาทุกข์ใส่ตัว เปิดดูละครก็เจออีก โทรทัศน์ต่างประเทศมีแต่สร้างสรรค์สิ่งดีๆ
"แต่เราเน้นบทคนใช้ พ่อตาแม่ยาย มรดกตกทอด พวกที่นั่งดูอยู่มรดกก็ไม่มีแต่เอาใจช่วยเขา รอจะดูละคร แต่เวลาผมพูดไม่ฟัง เพราะไม่สนุก ไม่มัน ถ้าฟังละครด่ากันแป๊บเดียวมีความสุขนอนหลับ มันไม่ใช่ แบบนี้ต่างประเทศไม่ทำกัน อยากดีอยากได้แบบต่างประเทศก็ต้องคิดใหม่ทำใหม่ ร่วมมือกันทำอนาคต”
จากบทสัมภาษณ์ดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ 'ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์' หรือ 'แอ๊นท์' นักเขียนบทละคร แสดงความคิดเห็นโต้แย้ง โดยเธอได้อธิบายผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่ออธิบายถึงกระบวนการทำละคร โดยระบุถึง 'ลุงตู่' ที่ 'ด่าละครและคนดูละคร' โดยย้ำในประเด็นที่สำคัญว่า เมื่อละครออกอากาศมาได้ หมายความว่าได้ผ่านการทบทวน ตรวจทานแก้ไขมาอย่างเต็มที่
"คือข้าพเจ้ารู้สึกเยอะ เพราะเป็นคนเขียนบทละคร จึงขอแลกเปลี่ยนกับลุงตู่แบบผู้มีอารยะ ไม่หยาบคาย..ดังนี้ เวลาลุงตู่พูด มีคนเขียนบทให้หรือไม่ ลุงจ้างมาเท่าไหร่ เมื่อเขาเขียน ลุงอ่านทบทวนกี่รอบ คิดไหมว่าพับลิกฟังหรือดูแล้ว จะรู้สึกอย่างไร จะชื่นชม เห็นด้วย คล้อยตาม หรือต่อต้าน"
"สำหรับละคร มีคนเขียนบท เขียนแล้ว ก็ต้องแก้แล้วแก้อีก จากคอมเมนต์ของผู้จัด และของสถานี จากนั้นก็มีการประชุมโปรดักชั่น ถ้าบทของเรามีอะไรทะแม่ง ไม่มีเหตุผล ไม่น่าเชื่อ ทีมงานไม่เคลียร์ เขาจะถามให้คนเขียนบทตอบ ถ้าตอบไม่ได้ ต้องแก้ไข นักแสดงเมื่อมาเล่น ถ้าเขาไม่เชื่อในบท รู้สึกว่าบทมันขัดความรู้สึก เขาจะเคลียร์กับผู้กำกับก่อน ว่าจะอธิบายให้เขาแสดงได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงหรือไม่ ถ้าผู้กำกับตอบไม่ได้ ผู้กำกับจะโทรมาให้คนเขียนบทอธิบาย จากนั้น เมื่อถ่ายทำเสร็จ ทางห้องตัดต่อจะพิจารณาอีกที ว่าอะไรยืดเยื้อ น่าเบื่อ ซ้ำซาก คนตัดต่อจะตัดให้มันออกมาพอดีๆ ไม่หย่อนยานท้องช้าง จากนั้นก็ส่งงานที่ตัดแล้วให้ทางผู้บริหารตรวจทานอีกรอบ ถ้ามีข้อตำหนิ หรือติดค้าง มันจะถูกตัด ถูกเขียนแก้ และถ่ายทำซ่อม"
"เมื่อละครออกอากาศมาได้ หมายความว่า มันผ่านการทบทวน ตรวจทานแก้ไขมาอย่างเต็มที่ เพราะเวลามีค่า ค่าเวลาช่วงไพรม์ไทม์แพง ดังนั้น อะไรจะออกอากาศไป มันต้องดีพอ มิเช่นนั้น ประชาชนจะตัดสินคุณ โดยไม่ดู เรตติ้งไม่ดี โฆษณาไม่ซื้อ ไม่ได้บังคับเอาเวลามาฟรีๆ ตามใจชอบ เหมือน..ใครก็ช่างเถอะ.. "
"กว่าละครจะออกมาให้คนดูสบายๆ ผ่านพรวดๆๆ จ๊วดๆ ได้นั้น มันผ่านการทำงานมาอย่างหนักหนาสาหัส เอาที่จริง พวกเราทำงานกันหนักมาก จนแทบไม่อยากพูดถึงค่าตัวด้วยซ้ำ แล้วลุงตู่ล่ะ จะออกทีวีแต่ละครั้ง ทีมงานของลุงทำเท่าที่เราทำไหม ถ้าไม่เท่า อย่าบังอาจมาเทียบมาเปรียบ หรือมาแข่งขันกัน ขอบคุณ"
หลังจากทิพย์ธิดาโพสต์ข้อความดังกล่าวก็มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย โดยมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ทั้งนี้ ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์ เป็นนักเขียนบทโทรทัศน์ที่คร่ำหวอดในวงการมากว่า 30 ปี โดยใช้นามปากกาว่า ปราณประมูล ผลงานสร้างชื่อมีทั้ง เรื่อง น้ำผึ้งขม, สวรรค์เบี่ยง, น้ำใสใจจริง, วันนี้ที่รอคอย, เคหาสน์สีแดง, บ่วงหงส์, ปริศนา, มาลัยสามชาย, สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายพุฒิภัทร, เจ้าบ้านเจ้าเรือน, ดั่งดวงหฤทัย และ ซีรี่ส์ MY HERO วีรบุรุษสุดที่รัก ตอน ลมไพรผูกรัก เป็นต้น