ต่างประเทศ
ชาวจีนไว้อาลัยครบ 1 ปี สิ้น 'หลี่ เหวินเลี่ยง' แพทย์ผู้กล้าเตือนโควิด-19 ระบาด
ชาวจีนบางส่วนในเมืองอู่ฮั่นเดินทางไปวางช่อดอกไม้ยังบริเวณหน้าโรงพยาบาลกลาง (Houhu Branch of Wuhan Central Hospital) เพื่อแสดงความไว้อาลัยต่อการครบรอบ 1 ปีการจากไปของ นพ.หลี่ เหวินเลี่ยง จักษุแพทย์ผู้ออกมาเตือนถึงการพบการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสชนิดใหม่ที่ก่อให้เกิดโรคปอดบวมในเมืองอู่ฮั่น กระทั่งนพ.หลี่ เสียชีวิตลงเนื่องจากติดเชื้อโควิด-19 ด้วยวัยเพียง 34 ปี เมื่อ 7 ก.พ. 2563
เช่นเดียวกับฮ่องกงรวมถึงในต่างแดนอย่างในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ชาวจีนต่างจำนวนมากต่างออกมาวางช่องดอกไม้ยังด้านหน้ามหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส (UCLA) เพื่อร่วมไว้อาลัย
ขณะที่ชาวจีนในโลกออนไลน์ ต่างร่วมเคลื่อนไหวเพื่อรำลึกถึงการจากไปของนพ.หลี่ ด้วยการโพสต์ข้อความแสดงความอาลัย รวมถึงแชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับนพ.หลี่ ครั้งที่ออกมาเตือนถึงอันตรายของไวรัสชนิดไม่จนถูกทางการจีนสอบสวนในข้อหา'เผยแพร่ข่าวลือ' ทั้งยังได้รับคำสั่งจากตำรวจให้เขายุติการ'แสดงความคิดเห็นอันเป็นเท็จ'
นพ.หลี่ เป็น 1 ใน 8 บุคคลที่ถูกเจ้าหน้าที่จีนควบคุมตัวไปปรับทัศนคติ ทั้งลงบันทึกว่าเป็นผู้ปล่อยข่าวลือถึงการพบไวรัสชนิดใหม่ที่ก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจคล้ายโรคซาร์ส จากการที่นพ.หลี่ ส่งข้อความไปเตือนยังเพื่อนหมอด้วยกัน กระทั่งเขาถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิดจากการที่ตรวจตาให้กับคนไข้รายหนึ่งซึ่งติดเชื้อ โดยก่อนหน้าการเสียชีวิต นพ.หลี่เคยให้สัมภาษณ์นิตยสารธุรกิจ ไคซิน (Caixin) ว่า "สังคมที่แข็งแรงไม่ควรมีเสียงเพียงรูปแบบเดียว"
การเสียชีวิตของ นพ.หลี่ สร้างความโกรธเคียงต่อชาวจีนอย่างมาก โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ที่เรียกร้องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ทั้งยกย่องและซาบซึ้งที่หมอหลี่กล้าเผยข้อมูลแก่สาธารณะ รวมถึงเรื่องราวของหมอหลี่ซึ้งภรรยากำลังตั้งครรภ์ และกำลังจะได้เป็นพ่อคน แต่ต้องมาจบชีวิตด้วยไวรัส ทั้งยังถูกทางการจีนสั่งลงโทษ แม้ต่อมารัฐบาลจะเปิดสอบสวนทั้งสั่งลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่ควบคุมตัวและสั่งลงโทษหมอหลี่แล้วก็ตาม
สุดท้ายเรื่องราวของหมอหลี่จบลงด้วย ทางการจีนระบุให้เขา ไม่ใช่บุคคลที่ต่อต้านระบบและไม่เป็นผู้มีมลทินใดๆ จากการกล่าวหาในก่อนหน้านี้ ซึ่งที่ผ่านมาครอบครัวของนพ.หลี่ ไม่ได้เปิดเผยใดหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ ต่อสื่อมวลชน ขณะที่การไว้อาลัยต่อการจากไปครบ 1 ปี ทางการจีนหรือเมืองอู่ฮั่นไม่ได้ร่วมรำลึกใดเป็นพิเศษ
ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนพยายาม "ฟอกขาว" เหตุโควิดระบาดด้วยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง "วันและคืนในอู่ฮั่น" (Days and Nights in Wuhan) โดยมีเนื้อหายกย่องความสำเร็จของการคุมระบาดของเมืองจากการใช้มาตรการต่างๆ รวมถึงการล็อกดาวน์อันเข้มข้น แต่อย่างไรก็ตาม หลังผ่านเหตุระบาดไปราวหนึ่งปี รัฐบาลปักกิ่งเพิ่งเปิดให้ทีมสอบสวนนานาชาติจากองค์การอนามัยโลก เข้าไปค้นหาต้นต่อของเชื้อในเมืองอู่ฮั่น ท่ามกลางสภาพของเมืองที่กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ชาวเมืองออกมาใช้ชีวิตเหมือนเช่นก่อนการระบาด รวมถึงการจัดงานเฉลิมฉลองปีใหม่ที่ตรงข้ามกับพื้นที่อื่นๆ ทั่วโลกซึ่งยังคงพบการระบาดอย่างต่อเนื่อง
