วันนี้ (22 สิงหาคม 2567) น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส. แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย อภิปรายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระรายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง ปัญหานักโทษล้นเรือนจำ แนวทางการย้ายเรือนจำออกจากเขตชุมชนเมือง และการปรับปรุงการบริหารงานราชทัณฑ์ภายในเรือนจำทั่วประเทศให้มีสภาพที่เหมาะสม ซึ่งคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน พิจารณาเสร็จแล้ว

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า เรือนจำและทัณฑสถานของไทย ไม่สามารถรองรับการควบคุมผู้ต้องขังตามาตรฐานขั้นต่ำ และให้ความคุ้มครองสิทธิพื้นฐานของผู้ต้องขังอย่างเหมาะสมตามมาตรฐานสากล จนเป็นปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำ (Prison Overcrowding) เรื้อรังมาอย่างยาวนาน ถึงขั้นสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีผู้ต้องขังต่อจำนวนประชากรสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก อันดับ 3 ของเอเชีย และเป็นอันดับหนึ่งของอาเซียนเลยทีเดียว นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 และสูงขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 4 ต่อปี โดยผู้ต้องขังส่วนใหญ่มาจากคดียาเสพติดถึงร้อยละ 75

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญคือการแก้ไขฟื้นฟูพฤติกรรมและไม่กระทำความผิดซ้ำ รัฐบาลปัจจุบันที่นำโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้คำมั่นจะสานต่อนโยบายสำคัญ หนึ่งในนั้นก็คือ การยกระดับกระบวนการยุติธรรม ด้วยหลักนิติธรรม มีสัดส่วนการลงโทษตามกระบวนการอย่างถูกต้อง เพื่อพัฒนาการดำเนินการของกรมราชทัณฑ์ และคุ้มครองสิทธิของประชาชน ให้ความยุติธรรมนั้นจับต้องได้

“ขอฝากถึงรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ให้เดินหน้าสานต่อการจัดการยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ บูรณาการหน่วยงานความมั่นคง ร่วมฟื้นฟูบำบัดผู้ติดยาเสพติด แก้ปัญหาคนล้นคุก โดยการสร้างอาชีพและรายได้ สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุน ตัดต้นตอวงจรพึ่งพายาเสพติดเพราะไร้งานทำ ขอเป็นกำลังใจและสนับสนุนให้รัฐบาลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทำให้ประเทศไทยทุกตารางนิ้วเป็นพื้นที่ของโอกาสแห่งความหลากหลายโดยไม่แบ่งแยก ตามปณิธานนายกฯ แพทองธาร“ น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว