ไม่พบผลการค้นหา
พรรคเพื่อไทย ชวนคนรุ่นใหม่หารือสะท้อนปัญหาการศึกษาที่ไม่ตอบสนองความต้องการของเด็ก ‘โภคิน’ ชูนโยบายนักศึกษานั่งสภามหาวิทยาลัย ‘ชัชชาติ-นพดล’ ชี้ต้องแก้ปัญหาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ส่งเสริมความเท่าเทียมและการเรียนรู้ตลอดชีวิต

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค, นายนพดล ปัทมะ, และนายโภคิน พลกุล แกนนำพรรค เปิดวงสนทนาพูดคุยกับตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยแม่โจ้, และมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ จำนวนกว่า 20 คน 

โดยประเด็นหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาพูดคุยกันมากที่สุดคือ 'การศึกษา' นักศึกษาต่างมองเห็นว่าระบบทดสอบการศึกษา GAT-PAT ในปัจจุบันไม่ได้วัดความรู้ของเด็กจริงๆ, หลักสูตรจิตอาสาที่เก็บชั่วโมงไม่ได้สะท้อนความเป็นจิตอาสาที่แท้จริง, ความเสมอภาคในการเข้ารับการศึกษาของคนพิการ และระบบการรับน้องแบบ SOTUS ดีหรือไม่ ซึ่งประเด็นดังกล่าวมีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง

นายนพดล กล่าวว่า แนวนโยบายของพรรคเพื่อไทยคือเรียนฟรี 15 ปีและดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 8 ขวบให้ได้รับการศึกษาในช่วงนี้ให้ดีที่สุด ตั้งศูนย์เด็กอ่อนอัจฉริยะ 20,000 แห่งทั่วประเทศ เด็กต้องมีทักษะภาษาอังกฤษที่สื่อสารได้ เน้นการเรียนรู้อาชีวศึกษาให้คนเป็นเจ้านายหุ่นยนต์ กำหนดให้มีใบทดสอบคุณวุฒิวิชาชีพสำหรับเด็กอาชีวะ และที่สำคัญคือโรงเรียนต้องมีครูแนะแนวที่เก่งและช่วยให้เด็กค้นพบตัวเองให้เร็วที่สุด ส่วนคนที่เรียนไม่จบ ม.6 รัฐจะต้องจัดให้มีสถาบันอบรมวิชาชีพ เน้น Critical Thinking and Creative Thinking

ทั้งนี้ นายนพดลเห็นด้วยที่การทดสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกวันนี้ทำให้เด็กจนลงเรื่อยๆ และสะท้อนความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนคนรวย ในเมืองและชนบท

ด้านนายโภคิน กล่าวเสริมว่า เด็กต้องแชร์กับโรงเรียนว่าต้องการการเรียนการสอนแบบไหน เด็กต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในสภามหาวิทยาลัยเพื่อกำหนดการศึกษาตัวเอง 


เพื่อไทย เชียงใหม่

นายชัชชาติ กล่าวว่า โรงเรียนติวเตอร์แสดงถึงความล้มเหลวของระบบการศึกษาในปัจจุบัน ทั้งนี้หัวใจของความสำเร็จในอนาคตไม่ใช่แค่พรรคเพื่อไทย แต่อยู่ที่ตัวเด็กเอง พรรคหรือรัฐบาลต้องเตรียมแหล่งการเรียนรู้ ช่องทางไว้ให้ประชาชนเข้าถึงการศึกษาและการเรียนรู้เพิ่มเติมได้โดยร่วมมือกับเอกชน แต่เด็กเองก็ต้องมีแรงกระตุ้นที่อยากจะเรียนรู้ตลอดชีวิต ขณะเดียวกันต้องแก้ปัญหาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้เด็กพิเศษและเด็กพิการได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียม 

นายชัชชาติกล่าวว่าการศึกษาทุกวันนี้สอนให้คนท่องจำและคิดตามกรอบ สอนให้อยู่ในโรงงานเข้าระบบราชการ เหมือนกับระบบ SOTUS ทำให้เด็กไม่มีความคิดสร้างสรรค์ และตาม new economy ไม่ทัน อย่างไรก็ตามนายชัชชาติมองว่าทุกปัญหารวมทั้ง SOTUS ต้องใช้ Critical Thinking เพราะหลายปัญหามีสาเหตุที่หยั่งลึก

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดประเด็นพูดคุยกันถึงเรื่องต่างๆ ที่กำลังเป็นที่สนใจในสังคม ทั้งเรื่องปัญหาปากท้องที่นายชัชชาติ ตั้งคำถามว่า การค้าขายที่ไม่ดี สาเหตุมาจากเศรษฐกิจอย่างเดียวหรือไม่ หรือเกิดจากพ่อค้าแม่ค้าไม่ทันต่อเทคโนโลยีที่พัฒนาไปเรื่อยๆ, ประเด็นการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเด็กๆ ส่วนใหญ่เห็นด้วย เพราะจะได้คนพื้นที่ที่รู้ปัญหาเข้ามาทำงาน และกระจายอำนาจ, และประเด็นเรื่องฝุ่นพิษ โดยระบุภาครัฐต้องทำความเข้าใจให้ชัดว่าฝุ่นมาจากไหน เช่น เชียงใหม่มาจากการเผาชีวมวล จากนั้นคือการวางอุปกรณ์ตรวจอากาศ และแจ้งเตือนข้อมูลให้กับประชาชนได้รู้สถานการณ์อย่างชัดเจน พร้อมทั้งแจกหน้ากากกันฝุ่น และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด


เพื่อไทย เชียงใหม่เพื่อไทย เชียงใหม่เพื่อไทย เชียงใหม่เพื่อไทย เชียงใหม่เพื่อไทย เชียงใหม่เพื่อไทย เชียงใหม่


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :