กรมอุทยานฯ จัดระเบียบใหญ่ ประกาศจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวและห้ามพักค้างคืนที่หมู่เกาะสิมิลัน เพื่อให้ธรรมชาติได้รับการฟื้นฟู หลังสภาพแวดล้อมเสียหายหลายส่วน
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ออกประกาศในราชกิจจานุเบกษา ปิดการพักค้างแรมในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ยกเว้นผู้ได้รับอนุญาตสำหรับการทำกิจกรรมประเภทดำน้ำลึก โดยกำหนดรูปแบบการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันให้เป็นแบบไป-กลับ เนื่องจากที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแบบพักค้างแรมในเขตอุทยานฯ หมู่เกาะสิมิลัน ทำให้เกิดน้ำเสีย ซึ่งส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อปะการัง สัตว์น้ำ และระบบนิเวศ ในเขตอุทยานฯ หมู่เกาะสิมิลัน จึงประกาศห้ามพักค้างคืนเพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู
นอกจากนี้ ตั้งแต่ 15 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป จะมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเดินทางไปยังหมู่เกาะสิมิลันต้องไม่เกิน 3,850 คน ต่อวัน โดยแบ่งเป็นเส้นทางจากเกาะสี่ไปเกาะแปดไม่เกิน 1,625 คนต่อวัน เส้นทางจากเกาะแปดไปเกาะสี่ไม่เกิน 1,700 คนต่อวัน และนักท่องเที่ยวที่จะมาทำกิจกรรมดำน้ำลึกตามจุดต่าง ๆ 21 จุด กำหนดไม่เกิน 525 คนต่อวัน และยังประกาศห้ามเรือบรรทุกผู้โดยสารเกิน 100 คน เข้าเขตอุทยานฯ ด้วย
ก่อนหน้านี้ ภาครัฐได้มีการจัดระเบียบอ่าวมาหยามาแล้ว ซึ่งการจัดระเบียบนักท่องเที่ยวที่อ่าวมาหยาเป็นผลต่อเนื่องจากผลสำรวจปะการังในบริเวณหมู่เกาะสิมิลันแล้วพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงของปะการังอ่อนบริเวณหินม้วนเดียวที่เกาะห้า ตั้งแต่ปี 2555-2561 และยังไม่พบปะการังอ่อนสกุลหายากด้วย ขณะที่ปริมาณขยะไมโครพลาสติกที่พบในหมู่เกาะสิมิลันนั้นมีมากถึง 4,216 ชิ้น มากกว่าพื้นที่ต่างกันที่หาดเจ้าหลาวและหาดคุ้งวิมานอย่างชัดเจน