รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563
“อ.วิโรจน์” แนะ “ประยุทธ์” กลับบ้านไปเลี้ยงหลานได้แล้ว หลังไม่เห็นแววว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น หลังเป็นนายกฯ เข้าปีที่ 7 แถมเจอไมค์ จ้อไม่หยุด เน้นสั่งสอนคนอื่น แต่ไม่เคยพิจารณาตัวเอง ว่ากำลังทำเศรษฐกิจดิ่งทุกวัน
แม้แต่ปมถูกสหรัฐตัดสิทธิ์จีเอสพี ยังเข้าข้างตัวเอง “อ.วิโรจน์” เลยสอนมวยให้ว่าการถูกตัดสิทธ์จีเอสพี คือการถูกสหรัฐลงโทษ
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ติดตามผลการนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยสอบถามว่าถึงผลคะแนน
นายอนุชา ปฎิเสธว่า รัฐบาลไม่ได้ประเมินผลกระทบทางการค้า หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ต้องรอให้ผลการเลือกตั้งมีความชัดเจนก่อนจึงค่อย
ประเมินท่าทีอีกครั้ง โดยขณะนี้การนับคะแนนยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะในพื้นที่สวิงสเตท ซึ่งไทยมีความพร้อมเพราะได้ปรับตัวมาหลายส่วน เช่น การค้า การลงทุน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานภาพเพื่อเพิ่มขีดในการแข่งขัน
และเชื่อว่า กรณีที่สหรัฐฯ ประกาศตัดสิทธิพิเศษทางการค้า (GSP) ไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อภาพรวมการส่งออกไทยไปสหรัฐ ฯ โดยปี 62 ไทย-สหรัฐฯ มีมูลค่าการค้ารวม 48,630.85 ล้านเหรียญฯ ทั้งนี้หน่วยงานรัฐและผู้ประกอบการไทย เตรียมพร้อมและมีมาตรการรองรับไว้แล้ว เช่น กระทรวงพาณิชย์เร่งจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยด้วยการวางแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เช่น เจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching) ส่งเสริมสินค้าไทยเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเข้าสู่ผู้บริโภคในตลาดสหรัฐฯ โดยตรง รวมทั้ง ร่วมกับผู้ประกอบเข้าถึงตลาดใหม่ ทดแทนตลาดหลักที่เติบโตอย่างอิ่มตัวแล้ว
และไทยยังสามารถส่งสินค้าออกไปขายในตลาดสหรัฐ ฯ ได้ปกติ เพียงแต่ต้องกลับไปเสียภาษีนำเข้าในอัตราปกติ ซึ่งสินค้าที่ถูกตัดสิทธิ GSP / 231 รายการนั้น ไทยใช้สิทธิจริงในปี 62 เพียง 147 รายการ มีการประเมินภาษีที่ไทยต้องเสียอยู่ที่ 600 ล้านบาท
ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ เคยให้ข้อสังเกตว่า GSP ของสหรัฐฯ เป็นการให้จากสหรัฐฯ เพียงฝ่ายเดียวกับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและพัฒนาน้อย / ที่สุดแล้วในวันหนึ่งอาจหมดไป เพราะไทยสามารถเติบโตและพัฒนาขึ้นจนอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ตามการรายงานของธนาคารโลก ดังนั้น รัฐบาลจึงพยายามเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ เน้นการเติบโตจากเทคโนโลยีและนวัตกรรม
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปบรรยายเรื่อง "บทบาทของภาครัฐ เอกชน และการเมืองในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ" ในพิธีเปิดหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 63 ช่วงหนึ่ง ระบุว่า ถือเป็นโอกาสดีที่นักศึกษาในหลักสูตรนี้จะนำประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนความรู้ รู้จักนิสัยใจคอกัน ส่วนทัศนคติของแต่ละคนจะเป็นอย่างไร ไม่สามารถบังคับได้ แต่ทุกคนต้องมีเป้าหมายเดียวกันว่า จะทำอะไรเพื่อคนอื่นได้อย่างไร ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ และค่อยๆ แก้ไขกันไป
คนรุ่นใหม่เป็นดรีมทีม ที่จะเดินหน้าต่อไปด้วยกัน ต้องมีวิสัยทัศน์เพื่อให้ประเทศชาติมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ส่วนประเด็นสำคัญที่อยากให้ทบทวน คือ สถานการณ์ของโลกขณะนี้เป็นอย่างไร เนื่องจากปัจจุบัน เกิดความเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องพันธสัญญา เส้นทาง และข้อเจรจาต่างๆ ล้วนเป็นเรื่องที่จะต้องคำนึงถึง เพื่อให้สามารถกำหนดแนวทางในการพัฒนาประเทศต่อไป ทั้งเศรษฐกิจและความมั่นคง
ที่สำคัญต้องสร้างความสมดุลกับประเทศมหาอำนาจทุกฝ่าย และต้องระมัดระวังการตัดสินใจ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของประเทศไทย หรือของอาเซียน
ขณะนี้โลกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องช่วยเหลือกัน ในเรื่องการค้าการลงทุน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ การปรับปรุงและการพัฒนารูปแบบเศรษฐกิจ ให้เป็นไปตามตลาด โดยเราต้องยึดมั่นในการเป็นแกนกลางอาเซียน เชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านไปสู่การพัฒนา