อาหารการกินเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่ยากจะเปลี่ยนแปลง แม้ว่าคนอีสานช่วงอายุ 40-60 ปี เป็นมะเร็งท่อน้ำดีมาถึง 90% เพราะพยาธิใบไม้ตับที่อยู่ในปลาดิบ เป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็ง
จะแก้ปัญหานี้อย่างไรในเมื่อการกินอาหารดิบเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอาหาร
จากสถิติจากกระทรวงสาธารณสุขในปี พ.ศ.2557 ผู้เสียชีวิตจากมะเร็งท่อน้ำดีจำนวนทั้งสิ้น 14,000 ราย และมีผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงประมาณ 6,000,000 คนทั่วประเทศ ทั้งๆที่ประเทศไทยมีการรณรงค์ให้ประชาชนไม่กินปลาดิบมากว่า 30 ปีแล้ว (เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2530) แต่สุดท้ายประเทศไทยก็ยังไม่ประสบความสำเร็จสักที
เป็นเพราะอะไร? การรณรงค์ให้หยุดกิน "ปลาดิบ ก้อยปลาดิบ ส้มปลาดิบ ปลาร้าดิบ" จึงไม่เป็นผล และนำไปสู่การดูแคลนวัฒนธรรมการกินของดิบในภาคอีสาน
สิ่งที่หน่วยงานรัฐต้องจัดการ คือ ทำความเข้าใจในวัฒนธรรมที่ซับซ้อนของการกินในแต่ละภูมิภาค แล้วจึงแก้ระบบให้เอื้อต่อการกินของผู้คนในพื้นที่ ไม่ใช่แก้นิสัยการกิน
“การบริหารจัดการ การกินของดิบ ไม่ใช่ด้วยการสั่งให้หยุดกินดิบ แต่จะทำอย่างไรให้การกินดิบปลอดภัย”